ประเทศอียิปต์ อิสราเอล และฮามาส ได้มาตกลงให้มีการอพยพจํากัดออกจากกาซาและเข้าสู่อียิปต์ผ่านช่องแหลมราฟะฮ์หลังจากการเจรจาตลอดสัปดาห์นี้
เจ้าหน้าที่ของกาตาร์เป็นผู้กลางการเจรจา และบรรลุข้อตกลงในวันพุธตอนเช้า ข้อตกลงอนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติและผู้ป่วยสาหัสบางรายในกาซาสามารถอพยพได้ แม้ว่าจะไม่มีกําหนดเวลาช่องแหลมราฟะฮ์จะเปิดใช้งานนานเท่าไร ตามที่แหล่งข่าวที่ได้รับทราบข้อตกลงได้บอกกับรอยเตอร์
มีผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาติหลายสิบคนเห็นเข้าออกช่องแหลมราฟะฮ์ในวันพุธเช้า เป็นหลักฐานของข้อตกลง
การเจรจามาตามการขยายขอบเขตการปฏิบัติการบนพื้นดินของอิสราเอลในกาซาอย่างมาก โดยกําลังป้องกันอิสราเอลกําลังกําจัดกลุ่มก่อการร้ายฮามาสออกจากตําแหน่งของพวกเขา
เจ้าหน้าที่ทหารได้เตือนว่าการปฏิบัติการนี้จะเป็นเรื่องยาวและยากลําบาก จนถึงปัจจุบัน มีทหารอิสราเอลเสียชีวิตอย่างน้อย 12 นายในการต่อสู้
ช่องแหลมราฟะฮ์ปิดตัวอยู่ส่วนใหญ่ตลอดการต่อสู้นับแต่การสังหารหมู่ของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม อิสราเอลและอียิปต์เปิดใช้งานเพียงเล็กน้อยสําหรับการเดินทางของขบวนช่วยเหลือเข้าสู่กาซา
ผู้นําอิสราเอลได้ประกาศว่าจะทําลายฮามาสในกาซาอย่างสิ้นเชิง นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ได้ปฏิเสธคําเรียกร้องหยุดยิงในสุนทรพจน์เมื่อวันจันทร์
“การเรียกร้องหยุดยิงคือการเรียกร้องให้อิสราเอลยอมแพ้ต่อฮามาส ยอมแพ้ต่อการก่อการร้าย ยอมแพ้ต่อความวิบัติ ซึ่งสิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้น” เนทันยาฮูกล่าว
“ท่านทั้งหลาย คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่ามีเวลาสําหรับสันติภาพและเวลาสําหรับสงคราม นี่คือเวลาสําหรับสงคราม – สงครามเพื่ออนาคตร่วมกันของเรา” เขากล่าวต่อ “วันนี้ เราวาดเส้นแบ่งระหว่างกําลังของความเจริญและกําลังของความวิบัติ นี่คือเวลาที่ทุกคนต้องตัดสินใจว่าตัวเองอยู่ฝั่งไหน อิสราเอลจะต่อสู้กับกําลังของความวิบัติจนถึงชัยชนะ ฉันหวังและวิงวอนให้ประเทศที่เจริญรุ่งเรืองทั่วโลกสนับสนุนการต่อสู้นี้”
เนทันยาฮูกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า “ความน่าสะพรึงกลัวที่ฮามาสก่อการร้ายเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เตือนเราว่า เราจะไม่สามารถบรรลุความหวังในอนาคตที่ดีกว่าได้ หากเราโลกที่เจริญรุ่งเรืองไม่พร้อมที่จะต่อสู้กับพวกประชาธิปไตย”
ณ ตอนต้นวันพุธ มีผู้เสียชีวิตจากสงครามทั้งสองฝ่ายประมาณ 9,900 คน ในจํานวนนี้มีพลเรือนและทหารอิสราเอลเสียชีวิตอย่างน้อย 1,400 คน และชาวอเมริกันเสียชีวิต 32 คน
รอยเตอร์ และ