คุณแม่ชาวญี่ปุ่นเจอกระแสดราม่าอย่างหนัก หลังเผยคลิปพาลูกสาววัย 9 ขวบ ทำตาสองชั้นเพื่อให้สวยขึ้น เนื่องจากเธอมองว่าคนมีตาชั้นเดียวนั้นน่าเกลียด
ในประเทศญี่ปุ่น การทำศัลยกรรมเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย รวมถึงผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ตราบใดที่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองตามกฎหมาย และพบว่าพ่อแม่บางคนสนับสนุนให้ลูกทำศัลยกรรมความงาม เพื่อเป็นการเสริมโหงวเฮ้งและความมั่นใจในตัวเอง
ตอนล่าสุดของสารคคี “Deadly Beauty” ที่ผลิตโดยสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง VICE Asia ได้นำเสนอเรื่องราวของ รุจจิ และ มิจจิ คู่แม่ลูกชาวญี่ปุ่นเจ้าของช่อง YouTube ที่เน้นเรื่องการแต่งหน้าและการทำศัลยกรรม และเพื่อช่วยทำให้ลูกสาววัย 9 ขวบสวยขึ้น ผู้เป็นแม่จึงพาไปเข้ารับการผ่าตัดทำตาสองชั้น
ผู้เป็นแม่พูดในคลิปว่า “ผู้หญิงต้องการตาสองชั้น ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่มีตาชั้นเดียวแล้วคิดว่าสวยเลย การทำตาสองชั้นคือมาตรฐานของความงาม ฉันพูดแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า”
เธอยังบอกด้วยว่า ตั้งแต่ตัวเธอเองยังเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ เธอก็รับรู้ได้แล้วว่าตาชั้นเดียวนั้นถือว่าขี้เหร่ ทุกครั้งที่เธอและพี่สาวเดินผ่านผู้คนในละแวกบ้าน พี่ของเธอมักจะได้รับคำชมเสมอเกี่ยวกับดวงตาที่กลมโตและสวยงาม ในขณะที่เธอถูกเมินเพราะมีตาชั้นเดียว ดังนั้นเธอจึงเข้ารับการผ่าตัดทำตาสองชั้นเมื่ออายุ 18 ปี แต่ความทรงจำในวัยเด็กก็ยังติดอยู่กับเธอ และเธอต้องการให้ข้อได้เปรียบแก่ลูกสาวตั้งแต่เนิ่นๆ
เธอควักเงินจ่ายไปราว 2,850 ดอลลาร์ (ประมาณ 101,000 บาท) สำหรับการศัลยกรรมของลูกสาวตัวน้อย ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดที่รอยพับเปลือกตา และตัดผิวหนังที่หย่อนคล้อยออก ในตอนแรกคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น แต่เนื่องจากภาวะแทรกซ้อน เด็กหญิงวัย 9 ขวบ จึงต้องใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงบนเตียงผ่าตัด
สำหรับ มิจจิ เด็กหญิงวัย 9 ขวบ บอกว่าเธอตัดสินใจผ่าตัดศัลยกรรม เพราะผู้คนมักบอกเธอเสมอว่าตาของเธอ “เล็กแคบ” ดังนั้นจึงดูเหมือนกำลังจ้องเขม็งไปที่คนอื่นๆ ถึงกระนั้นเธอก็ยังอ้างว่าชีวิตของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ศัลยกรรมตามา
ในทางกลับกัน รุจจิ บอกว่าผู้คนมักจะชมลูกสาวของเธอ และบอกว่าตอนนี้เธอดูน่ารักขึ้นมาก ทั้งนี้เธอยังต้องการให้ลูกสาวทำจมูกด้วย และถ้าลูกไม่พอใจกับขนาดหน้าอกของตัวเอง เธอก็จะสนับสนุนให้ลูกเสริมหน้าอกเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ท่าทีของ รุจจิ ที่มีต่อการทำศัลยกรรมพลาสติกสำหรับลูกสาวตัวน้อยของเธอ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งจากประชาชนทั่วไป และจากผู้เชี่ยวชาญ ที่บอกว่าพฤติกรรมของผู้ปกครองคือเอาสิ่งที่ตนเองชอบหรือไม่ชอบ รวมทั้งความไม่มั่นใจของตัวเองไปลงกับลูกๆ โดยยัดเยียดให้ทำตามใจตนเอง