ในความสัมพันธ์ของคู่รัก เป็นเรื่องง่ายมากที่จะหันหลังกลับและปล่อยมือ แต่เมื่อความสัมพันธ์พังลงแล้ว มันยากมากที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เรื่องราวของคู่รักชาวจีนคู่นี้ถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์
ชายคนหนึ่งต้องการแต่งงานใหม่กับภรรยาเก่าของตัวเอง หลังจากหย่าร้างมา 3 ปี เพราะเขาตระหนักว่าไม่มีใครดีกับเขาเท่าเธอ ยอมรับบทลงโทษแบกภรรยาขึ้นหลังเดินจากบ้านแม่ยายไปบ้านตัวเอง เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ภาพงานแต่งถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์และกลายเป็นที่ฮือฮา ชายคนหนึ่งที่แบกหญิงสาวที่สวมชุดเจ้าสาวไว้บนหลัง ท่าเดินของเขาดูเหนื่อยล้าและหนักมาก
ตามรายงานพบว่า ทั้งคู่เป็นอดีตสามีภรรยากัน แต่หลังจากแต่งงานได้เพียงไม่นาน สามีก็รู้สึกหดหู่ใจ คิดว่าการแต่งงานคือหลุมฝังศพของความรัก ความขัดแย้งและความไม่ลงรอยกันเกิดขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุด สามีก็ตัดสินใจหย่าขาดจากภรรยาของเขา
แต่หลังจากหย่าได้เพียง 3 ปี ฝ่ายชายรู้ตัวว่าเขาคิดผิด ภรรยาเก่าของเขาคือคนที่ดูแลเขาอย่างดีที่สุด เขาจึงขอเธอแต่งงานใหม่อีกครั้ง หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งฝ่ายหญิงก็ยอมแต่งงานด้วย แต่ยื่นข้อเสนอคือในวันแต่งงานสามีต้องแบกเธอ จากบ้านของแม่เธอไปยังบ้านของเขา
นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะระยะทางนั้นยาวไกลถึง 100 กิโลเมตร แม้แต่เดินคนเดียวยังถือเป็นเรื่องยากมาก นับประสาอะไรกับแบกอีกคนไว้บนหลัง เรียกว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลย
กระทั่งมาถึงวันแต่งงาน หญิงสาวสวมชุดแต่งงานสีขาว สวมมงกุฎ และแต่งหน้าอย่างสวยงาม เจ้าบ่าวไปที่บ้านของภรรยาแต่เช้าเพื่อเตรียมพร้อมที่จะพาภรรยากลับบ้าน เขาต้องใช้เชือกสีแดงมัดภรรยาไว้บนหลัง และมือข้างหนึ่งประคองไม้เท้า
อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร ชายคนนั้นก็หมดแรงแล้ว ทุกย่างก้าวของเขาหนักหนาสาหัส เหน็ดเหนื่อย แม้กระทั่งตัวสั่นเทา ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่บนหลังของสามีอย่างสงบ หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเป็นครั้งคราว ในขณะที่หลายคนติดตามทั้งคู่เพื่อถ่ายทำ ถ่ายภาพ และช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
เมื่อเดินไปได้สักระยะ ชายคนนั้นก็หยุดนั่งลงข้างทางเพื่อพักให้คลายความเมื่อยล้า คนรอบข้างคอยเทน้ำเอาผ้ามาเช็ดเหงื่อให้ แต่ก็ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้สึกดีขึ้นเท่าที่ควร เมื่อนึกถึงระยะทาง 100 กิโลเมตร ชายผู้นี้มีอาการมึนงง หมดหวัง อยากจะยอมแพ้แต่ทำไม่ได้
โชคดีที่เมื่อชายคนนั้นอุ้มภรรยาไปได้ประมาณ 10 กิโลเมตร ภรรยาก็ขอร้องให้หยุดและปล่อยเธอลงมา โดยบอกว่าเธอแค่ต้องการทดสอบความมานะอดทนของสามี เพื่อดูว่าหัวใจของเขามั่นคงจริงหรือไม่ และเพื่อให้เขาเข้าใจว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะปล่อยสิ่งมีค่าในชีวิตไป
เจ้าสาวกล่าว่า จุดประสงค์ในการขอขมาครั้งนี้ก็เพื่อให้สามีระลึกถึงและทะนุถนอมการแต่งงาน นอกจากนี้ เธอยังต้องการให้เขาเข้าใจว่าก่อนนี้เธอต้องจากครอบครัวไปไกลเพียงใด กลายเจ้าสาวที่ถูกทิ้งมันไม่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กลับไปที่บ้านของฝ่ายหญิงเพื่อทำพิธีแต่งงาน ขณะนั้นเจ้าบ่าวก็ไม่มีแรงเหลือเสียแล้ว เหนื่อยจนขาทรงตัวไม่อยู่ต้องถือไม้เท้าเพื่อพยุงตัวเองเดิน แต่เขาก็พยายามทำตัวให้มีเรี่ยวแรง เพื่อให้แต่งงานของทั้งคู่ราบรื่นจนจบพิธี
หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ลงโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาให้ความสนใจ และแสดงความคิดเห็นว่า
“ผู้หญิงฉลาดและลึกซึ้งมาก”
“การที่สามารถเดินได้ 10 กิโลเมตร ก็เป็นเรื่องที่น่านับถือเช่นกัน”
“ผู้ชายจะจำไปตลอดชีวิต หวังว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในอนาคต”