รัฐบาล ไบเดน ได้สัญญาว่าจะจัดสรรเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ในวันศุกร์ เพื่อสนับสนุนกําลังพลพหุชาติที่นําโดยเคนยา ซึ่งเสนอให้ฟื้นฟูความมั่นคงให้กับเฮติที่กําลังประสบความขัดแย้ง และเร่งรัดให้ประเทศอื่นๆ ทําการบริจาคที่คล้ายกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ Antony Blinken ได้ประกาศว่าสหรัฐอเมริกาจะจัดหาการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ รวมถึงข่าวกรอง การขนส่งทางอากาศ การสื่อสาร และการสนับสนุนทางการแพทย์ให้กับภารกิจนี้ ซึ่งยังต้องได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ นอกเหนือจากเคนยาซึ่งจะนําการปฏิบัติการแล้ว ยังมีกําลังพลจากหลายประเทศในแถบแคริบเบียนที่จะถูกประจําการไปยังประเทศดังกล่าวด้วย
Blinken เร่งรัดให้ประชาคมระหว่างประเทศทําการสัญญาว่าจะส่งกําลังพลเพิ่มเติม ตลอดจนอุปกรณ์ โลจิสติกส์ การฝึกอบรม และการเงิน เพื่อให้ภารกิจนี้ประสบความสําเร็จ
เขากล่าวว่า ประชาชนชาวเฮติไม่สามารถรอนานไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
Blinken กล่าวว่า มันมีความจําเป็นอย่างเร่งด่วนที่คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องอนุมัติภารกิจนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้กองกําลังสามารถปฏิบัติงานได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า เขาเน้นย้ําว่า อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากต่างประเทศสามารถเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูเฮติจากปีที่ผ่านมาของการทุจริต การไร้กฎหมาย ความรุนแรงของแก๊ง และความวุ่นวายทางการเมือง
เขากล่าวว่า “การปรับปรุงด้านความมั่นคงจะต้องมาพร้อมกับความคืบหน้าที่แท้จริงในการแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมือง ภารกิจสนับสนุนจะไม่ใช่ทางเลือกแทนการพัฒนาทางการเมือง”
ไบเดนยังเป็นเจ้าภาพการประชุมปิดประตูเมื่อวันศุกร์เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเฮติ ความต้องการสําหรับภารกิจเคนยาที่เสนอ และผลลัพธ์ของการเดินทางไปเฮติของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเคนยาเมื่อเดือนสิงหาคม มีประเทศมากกว่า 30 ประเทศเข้าร่วมการประชุม และอย่างน้อย 11 ประเทศได้ทําการสัญญาสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม ตามที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ซึ่งพูดโดยไม่อ้างนามเพื่ออภิปรายการประชุม
ไม่ชัดเจนว่ามีการสัญญาสนับสนุนประเภทใด และเจ้าหน้าที่ผู้นั้นไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับที่จีนและรัสเซียยืนอยู่ในเรื่องของมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่อาจอนุมัติภารกิจเคนยา
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเคนยา William Ruto กล่าวว่าประเทศของเขามุ่งมั่นที่จะนํากําลังพลพหุชาติในเฮติเพื่อปราบปรามความรุนแรงของแก๊งขณะที่เขาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศในแถบแคริบเบียน สหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่าจะเสนอมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่อนุญาตให้มีภารกิจเช่นนี้ แต่ยังไม่มีกําหนดเวลาที่แน่นอนเนื่องจากผู้นําระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่สหประชาชาติเร่งรัดให้มีการดําเนินการทันที ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเฮติ Ariel Henry ได้ร้องขอให้มีการประจําการกําลังทหารต่างชาติที่มีอาวุธทันทีเ