สหภาพยุโรปจะพิจารณาห้ามการนําเข้าเพชรจากรัสเซีย

ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะเริ่มหารือสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับข้อเสนอสําหรับร่างกฎหมายครั้งที่ 12 เพื่อกําหนดมาตรการห้ามเพชรจากรัสเซีย ตามที่ทูตสหภาพยุโรปและเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปได้เปิดเผยกับรอยเตอร์

ตั้งแต่การรุกรานยูเครนของรัสเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้นํามาตรการคว่ําบาตรครั้งที่ 11 มาบังคับใช้ต่อมอสโก เพื่อลดขีดความสามารถในการจัดหาเงินทุนสงครามของเครมลิน มาตรการครอบคลุมหลายภาคส่วนและรวมถึงบุคคลและหน่วยงานประมาณ 1,800 แห่ง

แต่จนถึงปัจจุบัน สหภาพยุโรปยังไม่ได้กําหนดมาตรการคว่ําบาตรต่อบริษัทเพชรของรัฐรัสเซีย Alrosa แม้ว่าเครือข่ายร้านเพชรชั้นนําของตะวันตกจะได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับเพชรจากรัสเซียไปแล้ว

รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป โจเซฟ บอเรลล์ ได้กล่าวกับฟินานเชียลไทม์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า G7 ได้ให้การรับรองแผนการห้ามเพชรจากรัสเซียในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G7 ที่ประเทศญี่ปุ่น

ทูตสหภาพยุโรปกล่าวว่าสหภาพยุโรปได้รอการให้การรับรองจาก G7 เพื่อดําเนินการห้ามนําเข้าเพชรจากรัสเซีย ขณะที่เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปคนหนึ่งกล่าวว่าการเสนอร่างกฎหมายจากคณะกรรมาธิการยุโรปน่าจะเริ่ม “ต้นสัปดาห์หน้า”

“แผนงานคือคณะกรรมาธิการจะเสนอร่างกฎหมายในวันหน้า จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของคณะมนตรีในการอนุมัติ” เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปคนหนึ่งได้กล่าวกับรอยเตอร์ พร้อมระบุว่าการหารือระหว่างรัฐบาลจะเริ่มขึ้นสัปดาห์หน้า

G7 ได้ระบุแนวทางการติดตามเพชรจากรัสเซียเพื่อป้องกันการนําเข้ามาตั้งแต่เดือนกันยายน แต่การประกาศทางการของ G7 ที่คาดว่าจะเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้วยังคงถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากการอภิปรายเกี่ยวกับรายละเอียดเชิงเทคนิค

ข้อเสนอดังกล่าวซึ่งริเริ่มโดยเบลเยียมตามคําขอของสหภาพยุโรปนั้นคาดว่าจะมีเนื้อหาใกล้เคียงกับร่างกฎหมายของคณะกรรมาธิการยุโรป ตามที่ทูตคนหนึ่งกล่าว

โปแลนด์ได้ร้องขอให้มีการห้ามนําเข้าเพชรและแก๊สธรรมชาติเหลวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่เอสโตเนียก็ได้ร้องขอให้มีการห้ามนําเข้าแก๊สธรรมชาติเหลวอีกด้วย แต่สหภาพยุโรปมีความเห็นว่าไม่ควรมีการเคลื่อนไหวในตลาดแก๊สซึ่งมีความผันผวนสูง

ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอน ได้กล่าวว่าสหภาพยุโรปจะพิจารณามาตรการห้ามเพชรจากรัสเซีย การแช่แข็งทรัพย์สิน และการห้ามเดินทางของบุคคล 100 รายใหม่ รวมถึงการเรียกเก็บราคาน้ํามันรัสเซียตามข้อตกลงราคาเพดาน 60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลของ G7 ให้เข้มงวดมากขึ้น