น้องมะลิ พริตตี้คนดัง เตือนภัยฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อักเสบรุนแรง หน้าเสียโฉม-หวิดตาบอด อุทาหรณ์หมอกระเป๋า
น้องมะลิ Mali Kanjanaphuping สาวพริตตี้และเอ็มซีคนดัง ที่มีผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน ได้ออกมาเผยภาพใบหน้าของเธอที่บวม แดง บางส่วนอักเสบ บางจุดลอกเป็นขุย โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้มลามไปจมูก
โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน มะลิได้ไปฉีดร่องแก้ม ซึ่งคนที่ฉีดให้ไม่ได้สวมชุดพยาบาล แต่สวมใส่ชุดทำงานธรรมดา และหลังจากนั้นเพียง 2 วัน มะลิก็เช็กอินที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และบอกว่าค่ารักษาเมื่อวานอยู่ที่ 33,300 วันนี้ 29,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ถ้าพร้อมแล้วจะมาบอกว่าเหตุใดจึงเข้าโรงพยาบาล
ก่อนที่ล่าสุด มะลิ ได้โพสต์ภาพใบหน้าที่แพ้สารเติมร่องแก้ม พร้อมเล่าเป็นอุทาหรณ์ เตือนภัยสายฉีด โดยเฉพาะกับหมอกระเป๋า ใจความว่า
เมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค. มะลิได้ฉีดฟิลเลอร์บริเวณร่องแก้มทั้งสองข้าง หลังฉีดเสร็จไม่ถึงชั่วโมง เริ่มมีรอยช้ำขึ้นที่หน้าแก้มฝั่งขวา และแสบโพรงจมูกขวามากๆ น้ำมูกไหลไม่หยุด วันต่อมาระดับความแสบโพรงจมูกมากขึ้น น้ำมูก-น้ำตาด้านขวาไหลไม่หยุด คุณหมอเจาะเลือดให้ยาฆ่าเชื้อ-ยาแก้แพ้ และให้ยามาทานตามอาการ แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ วันถัดมา หน้าเริ่มบวมขึ้น ปากบวม มีแผลในปากหลายจุด และเหมือนมีสิวขึ้นเล็กน้อย
เมื่อไปหาหมอเฉพาะทางด้านผิวหนัง ได้บอกว่าอาการนี้คือ “ฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด” ซึ่งอันตรายมากๆ เนื่องจากฟิลเลอร์เข้าไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่ไหลเวียน เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงในจุดต่างๆได้ เสี่ยงมากที่ฟิลเลอร์จะไหลเข้าตา เนื้อเยื่อตายบริเวณที่เลือดไม่ไปเลี้ยง ส่วนตุ่มที่คิดว่าเป็นสิว ความจริงแล้วมันคือหนอง จากการอักเสบรุนแรงต้องรีบฉีดสลายด่วน
การรักษาเบื้องต้น ทั้งฉีดสลายฟิลเลอร์ ฉายแสงลดการอักเสบและสมานแผลบนผิว ให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือด หลังจากนั้นจึงส่งเคสไปให้ทาง รพ.รามาธิบดีต่อ การฉีดสลายฟิลเลอร์ ไม่ใช่ฟิลเลอร์ 1cc = ฉีดสลาย 1 ขวด ปัจจุบันฉีดไป 45 ขวดแล้ว บอกเลยว่าฉีดสลายเจ็บมาก ยิ่งผิวอักเสบมากทำให้ยาชาที่ฉีดไปแทบไม่ได้ผล ยอมรับเลยว่ามีคิดสั้นบ่อยครั้ง คิดแค่ว่าอยากจบชีวิตตัวเองเพื่อที่จะไม่ต้องทนเจ็บต่อไปอีกแล้ว
ส่วนคนที่ฉีดให้เขาไม่ได้เป็นหมอแต่เป็นพยาบาล ถ้ารักษาตัวเองเรียบร้อยเมื่อไหร่จะรีบดำเนินคดีกับเขาทันที จึงอยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง และเตือนเพื่อนๆหลายคนไว้ การฉีดฟิลเลอร์ไม่ผิด แต่คนที่ฉีดให้ต้องเป็นหมอจริงๆ ต้องมีประสบการณ์ฉีด มีความชำนาญและความรู้ว่าต้องฉีดอย่างไร ต่อให้เป็นหมอฉีดแล้วพลาดขึ้นมา อย่างน้อยเขาก็ทราบสาเหตุและรักษาแก้ไขได้ถูกวิธี ทันท่วงที
ควรเช็คคลินิก เช็กคุณหมอ เช็กฟิลเลอร์ให้ชัวร์ว่าของแท้หรือเปล่า อย่าเห็นแก่ของถูก และถึงเป็นยาที่ผ่าน อย. ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะปลอดภัย เพราะมีโอกาสเกิดอันตรายจากการฉีดที่ผิดพลาด ผิดตำแหน่ง เพราะไม่ได้เรียนเฉพาะทาง ไม่รู้ว่าบริเวณไหนอันตราย ข้อห้ามข้อควรระวังในการฉีด รวมทั้งข้อแนะนำหลังการฉีดที่เหมาะสม อย่าชะล่าใจเด็ดขาด เพราะเวลามันพลาดขึ้นมา มันจะเจ็บหนัก จ่ายหนักกว่าเดิมหลายเท่า หรือบางครั้งมันอาจจะทำให้เราพิการขั้นตาบอด หรือ ไม่สามารถรักษาให้หายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้อีก