กรุงโซล อ่วม! น้ำท่วมสูงหลังฝนถล่ม น้ำทะลักลงสถานีรถไฟใต้ดิน รถลอยเกลื่อนถนน

พายุฝนถล่ม กรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ น้ำทะลักลงสถานีรถไฟใต้ดิน-รถลอยเกลื่อนถนน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย

วันนี้ (9 ส.ค.) สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้และปริมณฑล หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ส.ค.) เกิดฝนถล่มลงมาอย่างหนัก ทำให้ไฟฟ้าดับ ถนนและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินจมอยู่ใต้น้ำ

รายงานข่าวระบุว่า พื้นที่ทางใต้ของกรุงโซลมีฝนตกลงมาอย่างหนัก มากกว่า 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ในช่วงค่ำของวันจันทร์ (8 ส.ค.) โดยบางพื้นที่ของเมืองมีฝนตกหนักกว่า 141.5 มิลลิเมตร ซึ่งถือเป็นการตกหนักสุดในรอบ 80 ปี ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี (KMA)

ขณะที่ปริมาณฝนสะสมในกรุงโซลอยู่ที่ 420 มิลลิเมตร จนถึงตอนเวลา 05.00 น. ของวันอังคาร (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยมีการพยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีก

โดยในเขตกังนัม ย่านที่หรูหราและเป็นที่รวมตัวของผู้คน อาคารบางแห่งเกิดไฟฟ้าดับและถูกน้ำท่วม ขณะที่รถยนต์ รถบัส และสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหลายแห่ง จมอยู่ใต้บาดาล ส่งผลให้ประชาชนติดค้างอยู่ตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ ร้านค้าบางแห่งก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน

สำนักงานใหญ่ด้านมาตรการรับมือภัยพิบัติและความปลอดภัยกลาง เปิดเผยว่า จนถึงตอนเวลา 06.00 น. ของวันอังคาร (9 ส.ค.) มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย ในกรุงโซล และอีก 2 คนเสียชีวิตในจังหวัดคย็องกี ที่อยู่ติดกัน

โดยในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น มีอยู่ 4 ราย เป็นผู้ติดอยู่ในอาคารต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม อีกคนโดนไฟดูด และอีกรายถูกพบอยู่ใต้เศษซากของป้ายรถเมล์ และอีกคนเสียชีวิตในเหตุดินถล่ม

นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ต่างๆ อีกอย่างน้อย 9 ราย และมีอีก 6 คนที่ยังสูญหาย

สำนักงานใหญ่ด้านมาตรการรับมือภัยพิบัติและความปลอดภัยกลาง ยกระดับการเตือนภัยวิกฤตสู่ขั้นสูงสุด พร้อมร้องขอองค์กรภาครัฐและเอกชน ปรับเปลี่ยนชั่วโมงการทำงาน

ก่อนหน้านี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี ได้ออกประกาศเตือนฝนตกหนักทั่วกรุงโซลและพื้นที่ปริมณฑล รวมถึงพื้นที่บางส่วนของจังหวัดคังวอนและจังหวัดชุงช็อง โดยประกาศเตือนดังกล่าวคาดหมายว่าจะมีฝนตกหนักกว่า 60 มิลลิเมตร ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง หรือ 110 มิลลิเมตรใน 12 ชั่วโมง

ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเกาหลี คาดหมายว่าฝนจะยังคงตกหนักต่อเนื่องสำหรับพื้นที่ทางภาคกลางของประเทศ ไปจนถึงอย่างน้อยในวันพุธ (10 ส.ค.)