ขนลุกซู่ ผีเฝ้าเรือเข้าฝันสาว 3 วันติด ขอให้ช่วย กู้ภัยงมใต้น้ำเจอจังๆ ยืนเกาะขอบเรือ

กู้ภัยเล่าเคสลี้ลับ “ผีเฝ้าเรือ” เข้าฝันสาว 3 คืนติด บอกช่วยด้วย อยู่ในน้ำนานแล้ว ลงงมหาเจอดีจังๆ หญิงใส่ชุดสไบเขียว ยืนเกาะขอบเรือลำใหญ่

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เฉลิมพนธ์ ใหญ่ หงษ์ยนต์ ได้โพสต์เรื่องน่าขนลุก หลังมีชาวบ้านโทรมาขอความช่วยเหลือ บอกฝันเห็นผู้หญิงแต่งตัวสวย ร้องขอให้ช่วย เพราะอยู่ในน้ำมานานมากแล้ว พอดำค้นหาเจอเรื่องสุดช็อก หญิงสาวสวมใส่ชุดสไบโบราณสีเขียว ยืนเกาะขอบเรือลำใหญ่

โดยระบุว่า “เคสนี้เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับ เรื่อง “ผีเฝ้าเรือ” เรี่องมีอยู่ว่าได้รับแจ้งทางโทรศัพท์มีประชาชนขอความช่วยเหลือ ให้ค้นหาของบางอย่างในเขื่อนศรีนครินทร์ พอดีวันนี้ผมว่างก็เลยรับปากว่าจะเดินทางไปค้นหาให้ โดยไม่ได้สอบถามรายละเอียดมากนัก ดังนั้นผมจึงจัดเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำพร้อมออกเดินทางไปกับลูกน้อง 2 คน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

เมื่อไปถึงแพพักหลังหนึ่งที่อยู่เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ ผมก็ได้สอบถามเจ้าของแพว่าจะให้ค้นหาอะไร เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ลูกสะใภ้ของเขาฝันเห็น 3 วันติดแล้วว่ามี “ผู้หญิงแต่งตัวสวยมาบอกว่าให้ช่วยด้วย”!!! เขาอยู่ในน้ำมานานมากแล้ว

ผมก็สอบถามอีกว่าจะค้นหาตรงไหนถ้าไม่รู้จุด เขาบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน ทำให้ผมก็งงทำอะไรไม่ถูกเลย ก็เลยบอกเขาไปว่าไหนๆ ผมก็มาแล้ว จะลองค้นหาดูให้อาจจะเป็นต้นตะเคียนหรือเรือลำใหญ่ก็เป็นได้ แล้วผมก็ขอให้เจ้าของแพจัดเตรียมบายศรีให้ 1 ชุด คือมีกล้วยน้ำว้า 1 หวี พวงมาลัย 1 พวง แล้วก็น้ำ 1 ขวด โดยผมจะลองทำพิธีขอขมาเสี่ยงทายดู

พอได้ของครบเราก็เริ่มทำพิธีกันเลย จุดธูป 16 ดอก ขออโหสิต่อเจ้ากรรมนายเวรและขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่บริเวณนี้ ช่วยดลจิต ดลใจให้เจอสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือนี้ด้วยเถอะ เสร็จแล้ว ผมกับลูกน้องก็ลงค้นหาเลย โดยเริ่มค้นหาตั้งแต่ใต้แพของคนที่บอกว่าฝันเห็น ค้นไปเรื่อยๆ

สภาพน้ำใต้แพเป็นเหวลึก 20-30 เมตร อุณหภูมิใต้น้ำเย็นมาก ผมไต่ระดับความลึกลงไปกับลูกน้อง ลงไปถึงที่ระดับความลึก 30 เมตร ลูกน้องก็ทำสัญญาณว่าเจออะไรบางอย่าง สภาพน้ำวันนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็พอมองเห็น ตกลงที่เจอเป็นเรือหาปลาของชาวบ้านจมมาหลายปีแล้ว แต่น่าจะไม่ใช่สิ่งที่เราค้นหา

ผมจึงตกลงกันว่าจะลองลงไปค้นหาใหม่อีกครั้ง โดยผมจะลงไปค้นหาอีกรอบ พร้อมกับอธิษฐานในใจว่า ถ้าเรามีบุญต่อกัน ขอให้ได้พบเห็น พบเจอกันนะ แล้วผมก็ลงค้นหาโดยดำลึกลงไปอีกไปตามร่องเขา ซึ่งยังมีต้นไม้ใหญ่น้อยอยู่ใต้น้ำหลายต้น มองดูเหมือนเป็นป่าที่มีแต่ต้นไม้ตั้งอยู่เรียงรายแต่ไม่มีใบ

อุณหภูมิน้ำเย็นมากกว่าลงครั้งแรก บรรยากาศวังเวงมาก โดยผมมีไฟฉายกับมีดหนึ่งเล่มเป็นเพื่อนเท่านั้น ค้นหาอยู่ประมาณ 20 นาที โดยใช้ไฟฉายส่องไปรอบๆ แล้วทันทีที่ผมวาดไฟฉายไปทางซ้ายมือของผม ทันใดนั้น!!! สิ่งที่ผมเห็นก็คือ ผมเห็นเหมือนมีคนยืนอยู่บนขอนไม้ใหญ่ ผมก็นึกว่าเป็นลูกน้องผมตามลงมา ก็เลยไม่ใส่ใจอะไรกะว่าจะแยกกันค้นหา

ดำไปได้อีกพักนึง ผมก็มองดูที่มาตรวัดอากาศในถังเหลืออยู่แค่ 50 บาร์ ก็เลยต้องขึ้นมาก่อน พอขึ้นมาข้างบนก็เห็นลูกน้องนั่งกินข้าวอยู่ เลยถามลูกน้องว่าทำไมขึ้นมาเร็วจัง ลูกน้องผมก็ตอบมาว่า ผมยังไม่ได้ตามลงไปเลย หิวข้าวเลยกินข้าวก่อน มันตอบอย่างนี้ผมขนลุกเลย!! แล้วเป็นใครที่เราเห็น? แต่ก็อยากพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าอะไรที่ผมเห็นเมื่อครู่

เปลี่ยนถังเสร็จก็ลงไปอีกค้นหารอบนึง คราวนี้ลงคนเดียว ไต่ระดับลงไปที่เดิม มองเห็นขอนไม้ใหญ่ท่อนเดิม แต่ไม่มีอะไรนอกจากนั้น แต่พอผมขยับเข้าไปใกล้อีกนิดหนึ่ง สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจเลยครับ เป็นหญิงสาวสวมใส่ชุดสไบโบราณสีเขียว ยืนเกาะขอบเรือลำใหญ่อยู่

ซึ่งมองไปครั้งแรก ทำไมไม่เห็นเรือ ผมก็นึกในใจอากาศในถังทำผมหลอนรึปล่าว พอตั้งสติ ได้ผมก็ยกมือขึ้นไหว้ขอขมา แล้วก็นำเชือกเข้าไปผูกที่หัวเรือ ระหว่างที่เคลื่อนตัวเข้าไปก็ไม่เห็นหญิงสาวคนนั้นแล้ว

ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาผูกเชือกกับจุดที่แข็งแรงจน เสร็จแล้วก็ขึ้นมาเตรียมอุปกรณ์เพื่อกู้เรือให้ขึ้นมา โดยยังไม่เล่าเรื่องที่ผมเห็นให้ใครฟัง เดี๋ยวไม่มีใครช่วยเอาเรือขึ้น ใช้เวลากู้ขึ้นมา 2 ชั่วโมง โดยใช้ถัง 200 ลิตร 5 ใบลงไปผูกแล้วอัดลมให้ลอยขึ้นมาสภาพเรือยังสมบูรณ์มากครับ สวยมากไม่มีรอยรั่วเลย

ทุกวันนี้เรือลำนี้ ตั้งอยู่ที่วัดหม่องกะแทะ ใกล้กับเขื่อนศรีนครินทร์ ชาวบ้านที่นั่นรู้ข่าวเอาแบงก์ร้อยแบงก์พันร่วมทำบุญให้วัดกันหลายคน ส่วนผมก็ปลื้มใจที่นำเขาขึ้นจากน้ำได้ โดยผมคิดว่าถ้าสิ่งที่ผมเห็นมีจริงก็คงไม่ต้องทนหนาวอยู่ใต้น้ำอีกต่อไปแล้วครับ