คุมตัวมือปืนเรียก 9 ล้าน ยิงคู่กรณีดับคาโรงพักฝากขัง-ไม่ให้ประกันตัว

ตำรวจ คุมตัว ผู้ต้องหา ยิงคู่กรณีดับคา สน.หลักสอง ฝากขัง ศาลอาญาธนบุรี เผยปมสังหารแค้นถูกสนับมือต่อย

พนักงานสอบสวนคุมตัว นายพีรสิน หรือพี อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาใช้ปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ยิง นายคมสัน อินทร์ฤทธิ์ หรือม่อน อายุ 32 ปี เสียชีวิตบนสน.หลักสอง ไปขออำนาจศาลอาญา ธนบุรี ฝากขังผัดแรก หลังไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจาก เป็นคดีอุจฉกรรจ์ / ระหว่างถูกคุมตัวขึ้นรถคุมขัง นายพีรสิน ที่ใช้เสื้อคลุมปิดบังใบหน้า ปฏิเสธขอโทษครอบครัวผู้ตาย และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน

พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืน เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง แต่ระหว่างสอบปากคำ พบว่าแม้ผู้ต้องหาจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็มีความเครียด และความกังวลเล็กน้อย โดยปมสังหารครั้งนี้ พบว่า มาจากความเครียด หลังผู้ต้องหา ถูกผู้ตายใช้สนับมือต่อยที่ใบหน้าจนบาดเจ็บสาหัส

เนื่องจาก ขัดแย้งกันจากเหตุรถชน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2565 และ นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผู้ต้องหา ก็ไม่เคยเจอกับผู้ตาย แม้แต่ครั้งเดียว กระทั่งได้มาเจอเมื่อวานนี้ ที่พนักงานสอบสวนนัดทั้งสองคนมาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย โดยนายพีรสิน เรียกร้องค่าเสียหายทั้งสิ้นจำนวน 9 ล้านบาท ต่อหน้าพนักงานสอบสวนนั้นปรากฏว่า ฝ่ายผู้ตายปฏิเสธยืนกราน ว่าไม่สามารถชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวให้ได้  ซึ่งก่อนเกิดเหตุยิงกัน ขณะที่พนักงานสอบสวน ได้ตัดสินใจว่า จะส่งสำนวนคดีฟ้องศาล เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไกล่เกลี่ยกันไม่ลงตัวนั้น แฟนของผู้ก่อเหตุได้ถามผู้ตายว่า เหตุใดไม่คิดขอโทษผู้ตายจึงขอโทษ ด้วยน้ำเสียงและกริยาที่ไม่เต็มใจ ทำให้ผู้ก่อเหตุตัดสินใจลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องสอบสวน จากนั้นไม่นาน ผู้ก่อเหตุก็หวนกลับมาก่อเหตุยิงผู้ตาย

ส่วนกรณี ที่สังคมตั้งข้อสงสัย เหตุใด ตำรวจสน.หลักสอง จึงปล่อยประชาชนให้พกปืน ขึ้นมาที่สถานที่ราชการ พ.ต.อ.ธีระชัย บอกว่า เมื่อวานนี้ ทั้งสองฝ่ายเดินทางมากับทนายและครอบครัว และไม่มีท่าทีจะก่อเหตุร้าย จึงไม่ได้ตรวจร่างกายเข้มงวด ซึ่งนับว่ากรณีดังกล่าวเป็นเหตุซึ่งหน้า ยืนยัน ทางผู้บังคับบัญชาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเร่งพิจารณา หามาตรการรักษาความปลอดภัย ในเรื่องการพกปืนเข้าสถานที่ราชการต่อไป ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง / พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ