คุมตัว “หยู ซินฉี” เข้าข่ายฉ้อโกง ตั้งสมาคมเถื่อน แอบอ้างเบื้องสูง เจ้าตัวยังชิลล์ๆ

คุมตัว “หยู ซินฉี” ถ่ายภาพคู่บุคคลสำคัญ แอบอ้างเบื้องสูง เตรียมเพิกถอนวีซ่า ขึ้นแบล็กลิสต์ผลักดันออกนอกประเทศ เจ้าตัวบอก “It’s ok” , “no worry”

กรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายในสภาฯ เปิดเผยว่า นายหยู ซิน ฉี พัวพันกับการจัดตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงแอบอ้างเบื้องสูงและบุคคลสำคัญระดับประเทศในการแสวงหาผลประโยชน์ และต่อมานายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ชี้พิกัดให้ ตร.รีบเข้าจับกุมก่อนจะหลบหนีวันที่ 17 ก.พ.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวนายหยู ซินฉี ผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องการฉ้อโกง การตั้งมูลนิธิเถื่อน และแอบอ้างเบื้องสูง ไว้ได้แล้ว โดยพฤติกรรมของนายหยู ซินฉี ที่ผ่านมา จะมีการถ่ายรูปร่วมกับบุคคล เพื่อนำไปแอบอ้างกับเพื่อนร่วมชาติ สร้างความน่าเชื่อถือให้เข้ามาทำธุรกิจร่วมกัน เพราะสำหรับคนจีน การก่อตั้งสมาคมหรือมูลนิธิถือเป็นเรื่องสำคัญ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ กล่าวว่า ขณะนี้พบมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกร่วมลงทุน ทั้งในประเทศอังกฤษและประเทศจีน อยู่ระหว่างรอผู้เสียหายกลุ่มนี้เข้ามาให้ปากคำ พร้อมยอมรับว่าการแอบอ้างเข้าไปพบบุคคลสำคัญได้ จะต้องมีคนไทยที่เป็นข้าราชการเข้าไปช่วยเหลืออำนวยความสะดวก โดยการดำเนินการหลังจากนี้ จะมีการเพิกถอนวีซ่า ตั้งข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกง ตั้งมูลนิธิหรือสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อดำเนินคดีความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้วเสร็จ จะผลักดันออกนอกประเทศโดยขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ถาวร

ทางด้าน ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชิญตัวนายหยู ซิน ฉี ประธานมณฑลส่านซีสมาคมแห่งประเทศไทย ไปสอบถามข้อมูลที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี ภายหลังที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และนายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล เปิดเผยเรื่องราวว่า นายหยู ซิน ฉี พัวพันกับการจัดตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงแอบอ้างเบื้องสูงและบุคคลสำคัญระดับประเทศในการแสวงหาผลประโยชน์

ทั้งนี้ ตำรวจ ตม.ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปทำข่าวด้านบนของอาคารสำนักงาน ตม. ทำให้สื่อมวลชนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณชั้น G ของตึกเท่านั้น ด้าน พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า การนำตัวนายหยู ซินฉี มาครั้งนี้เป็นการควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง หลังพบพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเรื่องการตั้งสมาคมที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือสมาคมเถื่อนตามที่ปรากฎตามสื่อมวลชน จึงได้ดำเนินการเพิกถอนวีซ่าหรือใบอนุญาตพำนักในราชอาณาจักร ซึ่งนายหยู ซินฉี ถือวีซ่าประเภทผู้เกษียณพำนักในราชอาณาจักรได้ 2 ปีแล้ว และขออยู่ต่อตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยไปขออยู่ต่อที่ จ.ชลบุรี อีก 1 ปี

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการตั้งข้อหาหรือออกหมายจับนายหยูแต่อย่างใด ทางตำรวจ ตม.จะดำเนินการกักกันตามกฎหมายคนเข้าเมือง ที่ ตม.สวนพลูในคืนนี้ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการขอข้อมูลจากนายหยู แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ คาดว่าภายในวันพรุ่งนี้จะสามารถขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้าน และสมาคมของนายหยู ซินฉี เพิ่มเติม แต่จากการเข้าตรวจเบื้องต้นพบว่า นายหยู ซินฉี เข้ามาเปิดสมาคมอยู่ในประเทศไทย และมีป้ายภาษาจีนแปลตามชื่อสมาคมที่ปรากฏเป็นข่าว โดยที่ตั้งของสมาคมอยู่คนละจุดกับบ้านพักที่ตำรวจไปพบตัว

โดยระหว่างการควบคุมตัวนายหยู ซินฉี เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายหยู ซินฉี ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกตกใจแต่อย่างใด ส่วนความเกี่ยวข้องกับข้อครหาเรื่องยาเสพติด ฟอกเงิน ความเชื่อมโยงเกี่ยวกับการกระทำความผิดกฎหมายเพิ่มเติม การเป็นตัวกลางที่นำคนจีนเข้ามาในประเทศไทย และตัวบุคคลผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ จะดำเนินการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป แต่เชื่อว่าตามที่ปรากฏเป็นข่าว พฤติกรรมของนายหยู ซินฉี อาจก่อเกิดความเสียหายกับบุคคลอื่น ส่วนกำหนดระยะเวลาการผลักดันออกนอกราชอาณาจักร ต้องขึ้นกับระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าภายในเมื่อไหร่ ระหว่างนี้อยู่ในระหว่างการสอบถามข้อมูลจากนายหยู ซินฉี ซึ่งเชื่อว่า จะให้ความร่วมมือหลังจากนี้ได้เป็นอย่างดีและจะสามารถขยายผลต่อไปได้

ต่อมาเมื่อเวลา 17:30 ทางตำรวจ ตม. ได้นำตัวนายหยู ซินฉี ไปกักกันตัวที่ ตม.สวนพลู ตามกฎหมายคนเข้าเมือง โดยนายหยูมีสีหน้าที่ผ่อนคลาย และไม่ได้สวมกุญแจมือ ซึ่งนายหยู ซินฉี กล่าวกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า “It’s ok” ,”no worry” “ผมพูดไทยได้นิดหน่อย” ก่อนจะขึ้นรถตู้ไป