จับ 2 พี่น้อง รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ แค้นมานานแล้ว เคยตัดไฟไม่แจ้งล่วงหน้า

จับแล้ว 2 พี่น้อง รุมทำร้ายเจ้าหน้าที่จดมิเตอร์ของการไฟฟ้า อาการปางตาย บอกแค้นมานานแล้ว เคยตัดไฟไม่แจ้งล่วงหน้า

จากกรณี นายจิรศักดิ์ อายุ 43 ปี พนักงานจดมิเตอร์ไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาลาดหลุมแก้ว ถูกทำร้ายร่างกาย ขณะที่ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งเพื่อตัดไฟ เนื่องจากมีการค้างชำระ โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายฉกรรจ์ 2 คน ทำให้นายจิรศักดิ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

  • “พนักงานจดมิเตอร์” ถูกทำร้าย-ลากลงคูน้ำปางตาย หลังเข้าไปตัดไฟฟ้าบ้านที่ค้างชำระ

วันนี้ (12 ต.ค. 65) ร.ต.อ อำนาจ นิ่มนวล รอง สว.(สอบสวน) สภ.คูบางหลวง เจ้าของคดี ได้เดินทางไปสอบปากคำพยานเพิ่มเติมพร้อมกับไปดูอาการของผู้เสียหายที่ รพ.ปทุมธานี โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ยังได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลต่างๆนำมาส่งมอบให้พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เพื่อไปยื่นขออนุมัติหมายศาลจังหวัดปทุมธานี ในการออกหมายค้นและหมายจับ บุคคลที่ก่อเหตุตามคลิปวิดีโอ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว ส่วนอาการผู้บาดเจ็บขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว โดยแพทย์ได้ถอดเครื่องหายใจและรอดูอาการอย่างใกล้ชิด

ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูบางหลวง ได้นำหมายค้นของศาล จ.ปทุมธานี เพื่อไปตรวจค้นบ้าน ม.4 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของชายฉกรรจ์ 2 คนตามภาพคลิปวิดีโอ ที่ได้ร่วมกันก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ตามที่เป็นข่าว

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำกำลังเดินทางไปตามเป้าหมาย ก็ได้รับแจ้งจากสายว่า 1 ในชายฉกรรจ์ที่รุมทำร้ายนั้น ได้ขับรถ จยย.ออกมาพร้อมกับญาติคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังติดตามไป และได้พบกับนายอดุลย์ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามภาพคลิปวีดีโอ จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก พร้อมกันนี้ก็ได้นำหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นโดยมี นายอานนท์ อายุ 34 ปี พี่ชายนายอดุลย์ อยู่ในบ้านพร้อมกับผู้เป็นแม่และญาติอีก 2 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้น เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายนอกจากกัญชาจำนวนหนึ่ง แต่ได้ให้นายอานนท์ ดูภาพตามคลิปพร้อมสอบถามว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ที่ร่วมกันทำร้าย นายจิรศักดิ์ โดยนายอานนท์ ตอบว่าใช่ แต่ไม่ยอมที่จะเดินทางมาให้ปากคำที่โรงพัก เจ้าหน้าที่จึงได้ถอนกำลังกลับพร้อมได้แจ้งกับทางญาติว่าจะมาอีกครั้งพร้อมหมายจับ และจะไม่มีการพูดคุยเจรจาใดๆทั้งสิ้น

ต่อมาขณะที่ พ.ต.อ วรพจน์ ชูเชิด ผกก.กำลังสอบปากคำนายอดุลย์  ปรากฏว่าได้มีญาติได้นำตัวนายอานนท์ เดินทางมาที่โรงพักจึงได้ทำการสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุตามคลิปวิดีโอจริง โดยนายอดุลย์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนและญาติพี่น้องนั้นมีความคับแค้นใจคู่กรณีมานาน เนื่องจากเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา คู่กรณีได้มาทำการตัดไฟที่บ้านตนซึ่งขณะนั้นมีแม่ตนที่แก่ชราและสายตามองไม่ค่อยเห็นอยู่บ้าน พอตนรู้ว่าถูกตัดไปโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้พี่น้องตนไม่พอใจจึงรอจังหวะที่จะสอบถาม

จนกระทั่งในวันเกิดเหตุคู่กรณีขับรถ จยย.ผ่านมา จึงเรียกให้จอดขณะยังไม่ทันเจรจาพูดคุย พี่ชายตนได้เดินตามออกมา พอคู่กรณีเห็นพี่ชายตนก็จะขับรถหลบหนี ตนจึงได้ดึงเอาไว้แล้วมีการชกต่อยกัน โดยพี่ชายตนได้เข้ามาช่วยและชกไป 1 ครั้ง จากนั้นก็มีญาติตนมาห้ามไว้ส่วนรถ จยย.ของคู่กรณีนั้น นายอานนท์ ยอมรับว่าขณะที่น้องชายได้ต่อยกับคู่กรณีที่ตกไปในคูน้ำข้างทาง ตนเห็นว่ารถ จยย.นั้นเครื่องยังไม่ดับ จึงได้บิดคันเร่งทำให้รถก็พุ่งตกลงไปในคลองบางโพธิ์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์” พร้อมกับนำตัวทั้งคู่ไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.ลาดหลุมแก้ว โดยพบว่ามีสารเสพติด(ยาบ้า) จึงได้แจ้งข้อหาเสพสารเสพติดให้โทษ(ประเภท1) ก่อนควบคุมตัวเข้าห้องขังทันที