นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน และ ส.ส. จ.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีที่นำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาล 608 คือ อมโรค หมดสมรรถภาพ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ เองบริหารประเทศพินาศ ล้มเหลว ล้าหลัง ใน 6 ด้าน คือ
- การเป็นผู้นำที่ไร้ความชอบธรรม ไร้ความรู้ความสามารถ และขาดวิสัยทัศน์
- เศรษฐกิจพังพินาศ
- สังคมพังพินาศเพราะบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมและยาเสพติด โดยเฉพาะการดึงเอาสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนไทยมาโจมตีคู่แข่งทางการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจของตัวเอง
- สาธารณสุขพังพินาศ
- ทำลายระบบรัฐสภา
- คอร์รัปชัน
หนึ่งในความผิดพลาดนั่นคือการจงใจเป็นปฏิปักษ์ ทำลายระบบรัฐสภา โดยใช้อำนาจฝ่ายบริหารเข้าแทรกแซง ซึ่งฝ่ายค้านจะยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน เนื่องจากกรณีการลงมติรับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีกระแสข่าวว่า นายกรัฐมนตรีเรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลปิดห้องคุยคืนวันสุดท้ายก่อนลงมติ เพื่อเปลี่ยนจากการเอาสูตรหาร 500 ตามกรรมาธิการเสียงข้างมากเป็นคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร 100 ตามข้อเสนอพรรคเล็ก เพียงเพราะต้องการทำลายพรรคการเมืองคู่แข่ง และทำลายคนๆ เดียว ที่ท่านคิดว่าเป็นเจ้าของพรรคการเมืองนั้น เพื่อไม่ให้การยึดอำนาจมาเสียเปล่า เหมือนการจับหนูตัวเดียวเผาบ้านตัวเอง พังพินาศไปหมด อีกทั้งยังยอมให้
“จับหนูตัวเดียว เผาบ้านตัวเอง พังพินาศไปหมด…เป็นไปได้อย่างไรครับท่านประธาน รัฐธรรมนูญที่เราแก้ไข เราสร้างแม่มันเป็นวัว…วัวตัวนี้กำลังจะออกลูกที่เรียกว่ากฎหมายลูก กรรมาธิการก็บอกว่าลูกในท้องเป็นวัว แต่ก่อนที่จะคลอดเพียงวันเดียว มีใครคนนึงแอบไปผสมพันธุ์กับวัว ลูกมันออกมาเป็นควาย” นพ.ชลน่าน กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ ลุกขึ้นชี้แจงต่อทันทีว่า ตัวเองไม่ได้ต้องการให้เกิดการแบ่งพวกแบ่งฝ่าย บอกตัวเองใช้กฎหมายคุกคามประชาชน แต่ตรงกันข้ามมีคนอยู่เบื้องหลังความไม่สงบเหล่านี้ ให้ย้อนกลับไปดูความขัดแย้งของคนในชาติที่ยาวนานมากว่า 10 ปี ย้อนกลับไปดูพฤติกรรม ความผิด และคนที่ติดคุก
ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็พูดซ้ำๆ เดิมๆ โดยที่ไม่ดูอะไร หรือใช้อวัยวะข้างเดียวฟัง แต่รัฐบาลก็พร้อมให้ความกระจ่าง รัฐบาลทำงานเป็นทีม เพราะนายกฯ ไม่ได้เก่งหรือฉลาดทุกเรื่อง เหมือนบางคนที่พวกท่านบอกว่าฉลาดที่สุดตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามรัฐบาลมีการพัฒนาเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรม ตัวเองต้องการให้ประเทศมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติและ Thailand 4.0
นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้เกียรติกัน ถ้าอยากได้รับเกียรติจากคนอื่น ก็ต้องให้เกียรติคนอื่นเขา ไม่ใช่โจมตีในลักษณะให้ร้าย ส่อเสียด แต่ตนเองให้เกียรติสภานี้ ผ่านมาหนึ่งชั่วโมง ตัวเองโดนเต็มๆ ซึ่งไม่ใช่ความจริง หลายอย่างกำลังทำ กำลังจะดี พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ตัวเองทราบดีว่าท่านก็คงชื่นชมหลายคน ที่เคยทำงานมาก่อนว่าดีกว่าตัวเอง โน่นนี่ ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน