ชายอายุ 48 ปี นั่งแท็กซี่ขณะเมา ตื่นมาถึงกับสะดุ้ง โอนเงินจ่ายค่ารถไป 253,303 บาท จากราคา 253 บาท ประสานสวพ.FM91 ได้เงินคืนอย่างรวดเร็ว
วานนี้ (21 ต.ค.) ณ สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีการส่งมอบเงินจำนวน 253,303 บาท คืนเจ้าของ หลังผู้โดยสารโอนค่ารถเกินมาให้โชเฟอร์แท็กซี่
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลาประมาณ 10.50 น. คุณศักรินทร์ อายุ 48 ปี แจ้งผ่านหมายเลขโทรฟรี 1644 เผยว่า เมื่อวานนี้ (20 ต.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น. ใช้บริการรถแท็กซี่ จำรายละเอียดไม่ได้ นั่งมาจากแถวๆ เทเวศน์ ไปลงที่ซอยพหลโยธิน 64 ค่าโดยสาร 253 บาท ใช้วิธีโอนเงินจ่ายไป ก็ยื่นโทรศัพท์ให้โชเฟอร์แท็กซี่ดูว่าโอนเงินแล้ว แล้วก็แยกย้ายลงจากรถ
ปรากฏว่าพอตื่นมา มาเช็กเงินจากแอปพลิเคชั่นในมือถือ ก็ต้องตกใจมาก เพราะเงินหายไปกว่า 2 แสนบาท รีบมาตรวจสอบยอดเงิน จึงทราบว่าที่โอนเงินจ่ายค่าโดยสารแท็กซี่ไป จาก 253 บาท โอนไป 253,303 บาท ซึ่งตอนที่โอนเงินคือมีอาการเมา ปลายทางที่โอนไปคือ คุณธนสรณ์ ทองดี
หลังจากออกอากาศไป ทีมงานได้ตรวจสอบข้อมูลที่ สวพ.FM91 ว่าเคยมีผู้ขับขี่แท็กซี่รายนี้แจ้งข้อมูลเข้ามาหรือไม่ ปรากฏว่าพบข้อมูล คุณธนสรณ์ ทองดี ในทำเนียบคนดี แจ้งเก็บของได้เข้ามาหลายครั้ง ล่าสุด ที่แจ้งและนำมาฝากไว้ เป็นทรัพย์สินของต่างชาติ มีทั้งเงินไทย เงินดอลลาร์ และเงินกัมพูชา ซึ่งได้ประสานส่งมอบคืนให้กับเจ้าของเรียบร้อย
หลังจากทีมงานติดต่อ คุณธนสรณ์ ทองดี ได้แล้ว จึงประสานแจ้งให้คุณศักรินทร์ทราบ จากนั้นมีการพูดคุยออกอากาศกันทางหน้าไมค์ด้วย
คุณศักรินทร์ เปิดเผยว่า “ดีใจมากๆ ขนลุก ไม่คิดว่าจะตามหาแท็กซี่เจอเร็วขนาดนี้ โดยระบุว่า เงินส่วนนี้เป็นเงินที่ต้องใช้ในการดูแลรักษาคุณแม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้คุณแม่ประสบอุบัติเหตุด้วย
ขอบคุณแท็กซี่ และ สวพ.FM 91 มากๆ ที่ช่วยประสานงานได้รับเงืนคืนอย่างรวดเร็ว ขอมอบสินน้ำใจตอบแทนให้โชเฟอร์แท็กซี่แต่เค้าไม่รับ เพราะอยากช่วยเราจริงๆ ขอบคุณมากๆ อยากให้มีแท็กซี่ดีๆ แบบนี้เยอะๆ”
ด้าน คุณธนสรณ์ ทองดี โชเฟอร์แท็กซี่สีเหลือง ทห-7373 กทม. กล่าวว่า “ตอนแรกที่เจอผู้โดยสารว่าจะไม่รับเเล้ว เกรงจะปลุกไม่ตื่น เพราะเคยมีประสบการณ์รับผู้โดยสารเมามา แล้วต้องพาไป สน. ให้ตำรวจช่วยปลุก
แต่ด้วยหน้าที่จึงรับมา และไปส่งถึงที่หมาย ผู้โดยสารก็ตื่น แต่ใช้เวลาโอนอยู่สักพัก และโทรศัพท์ตนเองไม่มีแอปพลิเคชั่นแจ้งเตือน พอได้รับการประสานจาก สวพ.91 ก็รีบเข้าไปตรวจสอบ พบยอดเงินดังกล่าวจริงๆ
หาก สวพ.91 ไม่ได้ติดต่อมา ก็ตั้งใจอยากจะส่งคืน เพราะเคยเก็บของได้ก็นำมาประสานส่งคืนมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็ตั้งใจจะไปแจ้งความ และแจ้งธนาคารให้ตรวจสอบให้ด้วย และขอไม่รับสินน้ำใจ ทราบว่าทางเจ้าของเงินก็ลำบากอยู่เเล้ว ต้องเก็บเงินไว้รักษาแม่ ตนเองตั้งใจทำความดีอยู่แล้ว ไม่หวังผลตอบแทน ขอฝากถึงเพื่อนแท็กซี่ ให้ช่วยทำความดี มันอยู่กับตัวเรา อย่าไปท้อ”