ญาติพอใจ “ติ๊นา” จ่ายค่ารักษาน้องที่ถูกชน เจ้าตัวปัดชนแล้วหนี แต่รับขับค่อมเลนจริง

“ติ๊นา” ส่งทนายเจรจากับญาติน้องวัย 24ปี ที่ขับรถชนบาดเจ็บ ยันรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลจนกว่าจะหายดี พร้อมปฏิเสธชนแล้วหนี แต่ยอมรับขับรถประมาทค่อมเลนจริง

นายณชนก ยาจิตต์ พี่ชายนายวชิเรศ ยาจิตต์ อายุ 24 ปี ผู้บาดเจ็บ พร้อมด้วย นายปิยวุฒิ เปาทอง ทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อเจรจากับ นายสันต์ กาวิชัย ทนายความและผู้รับมอบอำนาจ จากนายศุภนาฎ จิตตลีลา หรือ ติ๊นา นักแสดงสาวหล่อ ที่ขับรถชน นายวชิเรศ รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา

นายสันต์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจของ ติ๊นา เปิดเผยภายหลังการเจรจาว่า การพูดคุยในวันนี้เป็นเพียงการพูดคุยในเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องการรักษาน้องให้ดีขึ้นและกลับมาเป็นปกติ เนื่องจากตอนนี้ผู้บาดเจ็บยังอาการสาหัส และรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ของ รพ.เลิศสิน แต่อาการไม่ดีขึ้น โดยญาติของผู้บาดเจ็บอยากย้ายไปรักษาตัวต่อที่ รพ.พญาไท 2

และขอให้ ติ๊นา รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ซึ่งทางติ๊นาเองก็ยินดีรับผิดชอบ ส่วนที่ ติ๊นาไม่ได้มาเจรจาด้วยวันนี้เพราะช่วยย้ายน้องออกจากไปรักษาตัวต่อที่ รพ.พญาไท และรับเป็นเจ้าของไข้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ติ๊นาก็ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บแล้ว แต่ทาง รพ.ยังงดเยี่ยม จึงได้มีการนำดอกไม้ไปวางไว้ แต่ไม่ได้มีการถ่ายรูปไว้ อาจจะทำให้หลายคนเข้าใจผิดว่าติ๊นาไม่ได้ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง

ส่วนเรื่องกรณีที่นำเสนอข่าวหรือคลิปวงจรปิด และอ้างว่า ติ๊นา ขับรถชนคนแล้วหนี และหลังจากขับรถชนแล้วยังไปเที่ยวต่อที่งานสงกรานต์แห่งหนึ่ง ที่เมืองทองธานี นั้น ได้ชี้แจงงานดังกล่าวจัดขึ้นวันที่ 13-14 เม.ย. แต่เหตุเกิดอุบัติเหตุเช้ามืดวันที่ 15 เม.ย.66 จึงเป็นไปไม่ได้ที่ติ๊นาขับรถชนแล้วจะไปเที่ยวต่อ พร้อมปฎิเสธว่าไม่ได้ขับชนแล้วหนี แต่ติ๊นาเป็นคนโทรแจ้งตำรวจและประกันภัย พร้อมทั้งช่วยส่งผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล หลังจากนั้นติ๊นาก็กลับมาที่ สน.พระโขนง เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางคดีติ๊นาก็ยอมรับว่าตนเองขับรถประมาทค่อมเลนจนไปชนผู้บาดเจ็บจริง

ส่วนเรื่องที่หลายคนตั้งขอสงสัยว่าอาจจะมีการดื่ม และมีอาการมึนเมาจนขับรถชนหรือไม่นั้น ตนยังไม่ได้คุยรายละเอียดกับติ๊นา แต่ถึงอย่างไรก็ต้องรอผลการตรวจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ามีการดื่มและเมาจริงก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือให้น้องผู้บาดเจ็บหายและกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด

ด้าน นายปิยวุฒิ ทนายความผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า การพูดคุยในวันนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการชดเชยค่าสินไหม แต่เป็นการพูดคุยในเรื่องการรักษาพยาบาล ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยความพอใจ เพราะฝั่งติ๊นา ยินดีที่จะช่วยเหลือในส่วนนี้ ส่วนอาการน้องที่บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ของ รพ.พญาไท2 ซึ่งที่น่าเป็นห่วงคือกระดูกเชิงกรานที่แตกร้าวและอาการสมองบวมยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่ หลังจากนี้ก็ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิดต่อไปโดยจะมีการนัดพูดคุยอีกครั้งในอีก2สัปดาห์

ขณะที่ นายณชนก พี่ชายผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่าการเจรจาในครั้งนี้ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะทางคู่กรณียินดีที่จะช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล ส่วนทางญาติๆ และคุณแม่ก็เข้มแข้งขึ้น เนื่องจากสิ่งสำคัญตอนนี้คืออยากให้น้องหายกลับมาเป็นปกติมากที่สุด