สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศฯ ออกแถลงการณ์ประณาม CNN บุกศูนย์เด็กเล็กฯ ทำข่าวกราดยิงหนองบัวลำภู เห็นครบคราบเลือดและสิ่งของต่างๆ
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อปรากฏภาพผู้สื่อข่าวสำนักข่าว CNN เข้าไปรายงานข่าวถึงภายในที่เกิดเหตุภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู ที่เผยให้เห็นถึงคราบเลือดที่ยังไม่ถูกล้างออก และสิ่งของเด็กๆ ที่ยังอยู่ด้านใน
ทั้งยังปรากฏภาพขณะผู้สื่อข่าว 2 ราย ขณะกำลังปีนรั้วศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ล้อมเส้นเชือกกั้นเอาไว้ ส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมและจริยธรรมในการนำเสนอข่าว
ล่าสุด วานนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) ได้ออกแถลงการณ์ประณามสำนักข่าว CNN ว่า เป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรมร้ายแรง
โดยแถลงการณ์ระบุว่า สมาชิกผู้สื่อข่าวอาชีพของ FCCT รู้สึกผิดหวังต่อการรายงานข่าวของสำนักข่าว CNN ที่มีทีมงานเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ ณ ศูนย์ดูแลเด็กเล็กในหนองบัวลำภู โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม่ว่าจะมีข้ออ้างอื่นใด สิ่งนี้ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และถือเป็นการละเมิดจริยธรรมสื่อสารมวลชนอย่างร้ายแรง ในการรายงานข่าวอาชญากรรม
แถลงการณ์ FCCT ระบุต่อว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้ได้สร้างความเจ็บปวดแก่ประเทศไทย สื่อดั้งเดิมและสื่อโซเชียลมีเดียล้วนตระหนัก และระมัดระวังในการเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม อันถือเป็นเรื่องพื้นฐานในการแสดงความเคารพต่อผู้สูญเสียและครอบครัว
FCCT ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเคยผ่านความเจ็บปวด จากการนำเสนอภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่ไม่เหมาะสม ที่ปรากฏในสื่อมาแล้ว ซึ่งถือเป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ที่สร้างความตระหนัก และย้ำถึงการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ทาง FCCT ขอยกย่องสื่อไทยและสื่อต่างประเทศ ที่สามารถนำเสนอข่าวภายใต้หลักจริยธรรม แม้จะต้องเจอแรงกดดันจากกระแสความสนใจจากทั่วโลกในการรายงานข่าวนี้
“CNN ควรตอบคำถามง่ายๆ ให้ได้ว่า จะมีทีมงานสักคนของ CNN ที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้หรือไม่ หากเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา” FCCT ระบุทิ้งท้าย
ต่อมา ทวิตเตอร์ @cnnipr ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสำนักข่าว CNN ได้ทวีตภาพที่มีข้อความตอบกลับทวิตเตอร์ @FCCThai อธิบายว่า
“ทีมข่าวของ CNN ได้เก็บภาพที่หนองบัวลำภู พร้อมกับสื่อสำนักอื่นๆ ในช่วงที่เทปที่ใช้กั้นศูนย์เด็กเล็กถูกแกะออกไปแล้ว ขณะที่กำลังเก็บภาพ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3 คน ได้ออกมาจากข้างใน และเข้ามาพูดกับทีมข่าวและบอกว่าพวกเขาเข้าไปเก็บภาพข้างในได้ ทีมข่าวจึงเข้าไปเก็บภาพด้านในศูนย์เด็กเล็กเป็นเวลาประมาณ 15 นาที แล้วจึงออกมา ซึ่งตอนนั้นมีการนำเทปมาทำแนวกั้นสถานที่เหมือนเดิม ทีมข่าวจึงต้องปีนรั้วเพื่อข้ามแนวกั้นออกมาด้านนอก”
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้สอบสวนกรณีผู้สื่อข่าวต่างชาติฝ่าแนวกั้นเข้าไปในที่เกิดเหตุแล้ว ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายมีความผิดฐานบุกรุกสถานที่ราชการ มีโทษจำคุก 5 ปี รวมถึงความผิดฐานยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากสอบสวนพบว่ามีความผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา