นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยกับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า เตรียมนัดประชุมกับกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงคมนาคม วันที่ 5 ม.ค. 2566 เพื่อเตรียมรับมือต่อการที่รัฐบาลจีนจะเริ่มบังคับใช้มาตรการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาจำนวนมาก
การเปิดประเทศดังกล่าวของจีน เกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรวดเร็ว จากการที่รัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคกะทันหัน หลังจากที่บังคับใช้อย่างเข้มข้นมาตลอด 3 ปี จนประชาชนไม่พอใจและเกิดการประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนต่างชาติ รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่าวันหนึ่งของสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 37 ล้านคน และถ้าหากนับรวมเพียง 20 วันแรกของเดือน ธ.ค. จีนมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 248 ล้านคน
- จีนเลิกรายงานยอดผู้ป่วยโควิด ขณะวงในเผยเลขจริง ติดวันละกว่า 30 ล้านคน
การนัดประชุมเพื่อรับมือคลื่นนักท่องเที่ยวดังกล่าวถือว่าเกิดขึ้นล่าช้ากว่าหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่ประเทศแทบทันทีที่ทราบว่าจีนจะเปิดประเทศ โดยจะให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องตรวจโควิดที่สนามบินทุกคน หรือแม้แต่อิตาลี ที่เริ่มใช้มาตรการคล้ายกัน หลังจากสนามบินในนครมิลานตรวจพบว่าผู้โดยสารจากจีน 2 เที่ยวบินติดโควิดเกือบ 50%
- อิตาลีผวา ตรวจ 2 ไฟลท์บินจากจีน ติดโควิดเกือบครึ่ง! ล่าสุดบังคับแหย่จมูกทุกคน
รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า ประเด็นที่ตนจะเสนอเข้าสู่การประชุมในวันที่ 5 ม.ค. คือ การเปิดให้ชาวต่างชาติทุกสัญชาติเดินทางเข้ามารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะมีต้นทุนเพียงเข็มละหลักร้อยบาท ซึ่งต่ำกว่าเงินที่นักท่องเที่ยวจะมาใช้จ่ายในไทย ที่สูงถึงประมาณ 40,000 บาทต่อคน