บทเรียนชีวิต “สน เดอะสตาร์” เคยข้องเกี่ยวยาเสพติด หลุดมาได้เพราะโดนกระทืบ

ถูกพาดพิงว่าชีวิตตกอับมานานหลายปี สำหรับนักร้องลูกทุ่ง สน เดอะสตาร์ หรือ สน สนธยา อดีตแชมป์เดอะสตาร์ของเมืองไทย ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่มกับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา เคลียร์ประเด็นต้นสังกัดทอดทิ้ง จนต้องออกมาเป็นอิสระ และกลายเป็นคนตกอับจริงหรือไม่ พร้อมเปิดเผยเรื่องราวชีวิตที่เคยใช้สารเสพติด (กาว) แต่ไม่เคยอายเพราะอยากให้เรื่องราวของตัวเอง เป็นแรงบันดาลใจกับใครอีกหลายคนที่อยากเปลี่ยนแปลง

ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ?
“ตอนนี้ก็ทำร้านและเพลงก็ทำอยู่ ซึ่งไม่ได้สังกัดอะไร ต่อให้เป็นงานผมทำหมด ก็หลังจากจบเดอะสตาร์ตอนนี้ก็เป็นอิสระแล้ว ออกมาทำเพลงเองด้วย ซึ่งจากภาพที่เป็นข่าวมาหลายคนจะมองว่าเราตกอับ ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ขี่มอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงรูปที่กำลังยืนขายก๋วยเตี๋ยว ผมก็เข้าไปทำท่าถ่ายรูปโพสเฉยๆ เพื่อทำคอนเทนท์ให้คนเข้ามาดู ซึ่งเป็นภาพเก่าทั้งนั้น”

รูปที่ถูกตำรวจจับคืออะไร ?
“เมื่อวานแม่ค้าแถวลาดพร้าว 101 ยังถามผมอยู่เลยว่าไปทำอะไรมาถึงถูกจับ ซึ่งผมก็บอกเขาว่าไปถ่ายหนังที่อุดรแล้วภาพนั้นเป็นฉากในหนัง”

รู้สึกยังไงเวลาคนเอารูปเก่ามาเขียน คนละเรื่องกับความเป็นจริง ?
“คนปกติมองผมไม่ว่า เพราะผมคิดว่าเป็นมุมมองของแต่ละคน แต่คนชี้นำถ้าสื่อหลักผมมั่นใจในจรรยาบรรณของสื่อ แต่ยังสื่อโซเชียลใส่ภาพเข้าไป เขาไม่รู้หรอกว่ามันเกิดผลกระทบอะไรต่อคนที่เขาพูดถึง และถ้าเกิดผมเป็นคนที่ความอดทนไม่ดี ชีวิตไม่ได้โดนหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็กให้อดทน เขาจะเป็นยังไง ซึ่งผมมองว่าสื่อโซเชียลมักง่าย”

ได้รับผลกระทบจากความมักง่ายยังไง ?
“ตอนแรกผมก็รู้สึกแกว่ง แต่สุดท้ายผมเป็นคนที่ชอบทำบุญ และผมก็บวชมา 3 รอบแล้ว ซึ่งผมก็ชอบฟังพระ ท้ายที่สุดมันคือตัวเราเองมากกว่าว่าเราจะคิดยังไง ข้างในจิตใจเรามีธรรมะนำทาง ทำให้เราลุกขึ้นมามองว่าใครจะมองก็มองไป ชีวิตเราดิ้นรนเอง ไม่ได้รวยมาก เพราะความลำบากเรามองเป็นเรื่องปกติ เพราะฉะนั้นอันนี้ถือว่าเป็นของขวัญที่สร้างให้เราแข็งแกร่งขึ้น”

สน เดอะสตาร์ ออกมาเปิดใจถึงบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญ

ทำไมไม่รู้สึกอยากตอบโต้ ?
“จริงๆ ข่าวนี้ทุกเพจเลยแค่เปลี่ยนหน้าปก ส่วนใหญ่ก็มีภาพลักษณ์ที่คล้ายกัน แต่ทุกเพจเนื้อหาเหมือนกันเลย ซึ่งข่าวนี้มันมีประมาณสี่ห้าปีที่แล้ว ทีแรกผมจะตอบโต้ก็โพสต์ไปบ้างตอบโต้เล็กน้อย พอโพสต์ไปก็รู้สึกว่าความจริงมันอยู่ที่เรา และผมก็นิ่งไป”

คำว่าตกอับมันมีผลยังไงต่อจิตใจเรา ?
“ผมรู้สึกไม่ดีครับ ผมรู้ตัวเองดี แต่ที่ไม่ยุติธรรมเลยคือพี่เขาบอกว่าต้นสังกัดทอดทิ้ง ผมว่าไม่ยุติธรรมกับแกรมมี่ครับ ผมได้คำว่าเดอะสตาร์มาก็เพราะแกรมมี่ เพราะฉะนั้นการที่คุณมาจั่วหัวข่าวว่าผมโดนบริษัททอดทิ้งมันไม่ใช่ มันไม่ยุติธรรมกับเขาหรอก ผมแค่หมดสัญญาเท่านั้นเอง แล้วผมก็รู้สึกว่าอยากทำอะไรเองบ้าง”

ย้อนกลับไปตอนเป็นเดอะสตาร์ พอเราดังทำให้เราหลงตัวเองมากขึ้นไหม ?
“มันก็พอๆ กัน เพราะวิถีผมแต่ไหนแต่ไรผมไม่ชอบหรูหราอยู่แล้ว แต่ในความสิ้นเปลืองของผม รู้สึกว่าชอบซื้อของที่ไม่เคยได้ตั้งแต่เด็ก อย่างกางเกงยีนส์ยี่ห้อหนึ่งที่ไม่เคยซื้อ ตอนจะไปจีบสาวก็ต้องยืมกางเกงเพื่อน แต่พอวันหนึ่งจากไม่เคยมี ตอนนี้ก็ 20 ตัวแล้ว กางเกงยีนส์มีเพียบ ลูกปัดโบราณผมมีลายเส้นมาก แต่ชอบฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่เราไม่เคยได้ โชคดีที่ผมไม่ชอบกินดื่มหรู ซึ่งของทั้งหมดทุกวันนี้ยังอยู่ครบ”

ชีวิตสุดขั้วเราเป็นยังไง ?
“เคยดมกาว มาแล้วเมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งเราหลุดออกมาจากตรงนั้นเพราะโดนกระทืบ แต่เรื่องราวเหล่านี้ผมเคยพูดแล้ว เพราะอยากให้เป็นแรงบันดาลใจกับใครที่จะเดินตามผม ผมอยากให้รู้ว่าถ้าเคยผิดพลาดก็สามารถเริ่มใหม่ได้ ตอนนั้นผมโดนพี่ชายกระทืบคากระป๋องกาวเลย ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้หลุดออกมา”

“แต่เขาบอกว่าเรามีแม่นะ และเรามีพรสวรรค์ในการร้องเพลง ทำไมเราไม่เอาด้านดีออกมาให้รักแม่ ผมเลยรู้สึกและร้องไห้ ตอนนั้นโดนกระทืบกลางถนนหมู่บ้าน ส่วนนึงก็เข็ด ส่วนนึงก็แม่ ก็เลยเปลี่ยนนิสัย ชีวิตเราก็เลยหลุดออกมาจากตรงนั้นได้”