บ.ฉีดโฟมกันเสียงให้ “เมาน์เทนบี” หอบหลักฐานโต้ข่าว ยันไม่ใช่วัตถุติดไฟง่าย

เจ้าของบริษัทฉีดโฟม ยันวัสดุที่ใช้ฉีดป้องกันเสียงผับมรณะ ไม่ใช่ฉนวนติดไฟง่าย อยากขอความเป็นธรรมให้กับน้ำยา

นายพิเชษฐ์ ธินนท์ เจ้าของ บจก.อินซูเลชั่น ซึ่งเป็นบริษัทรับฉีดพ่นน้ำยาโฟมซับเสียงให้กับร้าน เมาน์เทน บี ผับ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เบื้องต้นให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากผับดังกล่าวให้มาฉีดพ่นโฟมกันเสียงตั้งแต่กลางปี พ.ศ.2564 ซึ่งขณะนั้นทางร้านยังไม่ได้เปิดให้บริการ ประกอบกับเป็นช่วงของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยได้รับจ้างฉีดพ่นโฟมกันเสียงในพื้นที่รวม 600 ตารางเมตร มีความหนาแน่นของวัสดุประมาณ 3 นิ้ว ในอัตราค่าว่าจ้างเป็นเงิน 3 แสนกว่าบาท ซึ่งน้ำยาที่ใช้ฉีดพ่นนี้ จะมีการฉีดพ่นทั้งในส่วนใต้หลังคา นอกตัวหลังคา และการพ่นสารเซรามิกเคลือบทับอีกชั้น แต่ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางร้านได้แจ้งมาให้ไปฉีดพ่นสารกันเสียงเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีบางจุดที่ยังไม่ได้ทำการฉีดสารป้องกันเสียง ซึ่งก็ได้ดำเนินการจนแล้วเสร็จ

นายพิเชษฐ์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า เปิดบริษัทฯ มานานกว่า 10 ปี ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรมทุกอย่าง โดยที่ผ่านมารับงานฉีดโฟมที่มีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันความร้อน กันรั่ว และกันเสียงเข้า-ออก มาแล้วทั่วประเทศ ทั้งในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือสถานบริการต่างๆ ด้วยน้ำยาที่ใช้เป็นน้ำยามีมาตรฐานสากล รับรองจากประเทศเยอรมัน จึงเป็นที่รู้โดยทั่วกันว่าน้ำยานี้สามารถป้องกันปัญหาของสถานที่ต่างๆ ตามที่ได้แจ้งไว้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ อยากขอความเป็นธรรมให้กับน้ำยาที่ใช้ฉีดพ่นให้กับอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยน้ำยาดังกล่าวยืนยันว่าไม่ใช้วัตถุติดไฟได้ง่าย เนื่องจากที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวว่าไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วเป็นเพราะโฟมกันเสียง จึงได้นำตัวอย่างมาแสดงโชว์ พร้อมกับนำคลิปการทดลองจุดไฟมาให้ผู้สื่อข่าวได้รับชม และขอยืนยันว่าสารที่ใช้ในอาคารผับแห่งนี้ ไม่ใช่ฉนวนติดไฟง่ายแน่นอน ส่วนล้อยางรถยนต์ที่วางทับบนหลังคานั้น ไม่เกี่ยวข้องกับทางบริษัทฯ น่าเป็นความคิดของทางร้าน ที่มาวางทับเพื่อการสั่นสะเทือนของตัวหลังคามากกว่า