ประชาธิปัตย์ MV เช้าวันใหม่ ถอดรหัสจุรินทร์ขี่ม้าขาว ชวนตีกลองสะบัดชัย

พรรคประชาธิปัตย์เปิดตัวคลิปตัวอย่างเอ็มวีเพลงเช้าวันใหม่ออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.พ.) ก็ดึงความสนใจของแฟนคลับและผู้คนได้ระดับหนึ่ง

สิ่งที่หลายคนพูดถึงในตัวอย่างเอ็มวีดังกล่าว คือ การที่หัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ขี่ม้า ทั้งยังมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตหัวหน้าพรรค มาเป็นผู้ตีกลองสะบัดชัย แถมยังมีนักการเมืองรุ่นใหม่ของพรรค เช่น นางสาววทันยา โอภาสี, นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และนายเมธี อรุณ มาปรากฏตัวด้วย

ทั้งชื่อเพลง สัญญะ และข้อความในเอ็มวีเพลงนี้กำลังบอกอะไรเรา 

จุรินทร์ควบม้าขาว

จุดที่เชื่อว่าหลายคนไม่คาดคิดและสร้างความประหลาดใจ คือ นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค ปรากฏตัวในเอ็มวีนี้ด้วยการขี่ม้าขาว ก็ตอกย้ำภาพการเป็นอัศวินหรือแม่ทัพในการเลือกตั้งครั้งนี้

แต่การเป็นอัศวินขี่ม้าขาวนี้ มีความหมายว่าเป็นผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยในสถานการณ์คับขัน จึงน่าสนใจว่าข้อความดังกล่าวเป็นการยอมรับหรือไม่ว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในช่วงที่คับขันจริงๆ เพราะที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ “เลือดไหลไม่หยุด” เพราะนักการเมืองหลายคนย้ายพรรคออกไปจำนวนไม่น้อย แม้แต่นางรังสิมา รอดรัศมี ส.ส. ผู้ครองพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม อย่างมั่นคง

ชวนจับไม้ตีกลองสะบัดชัย

ส่วนกลองสะบัดชัยนั้น ไม่เพียงเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้แพร่หลายในภาคเหนือเท่านั้น ยังใช้ตีเพื่อให้สัญญาณโจมตีข้าศึกย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคพญามังรายเป็นอย่างน้อยตามตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ และใช้ตีเพื่อฉลองชัยชนะด้วย

การที่ได้นายชวน ผู้อาวุโสที่สุดคนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์มาตีกลองสะบัดชัย อาจต้องการสื่อความว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมลุยศึกเลือกตั้งแล้ว และนายชวนก็ต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของตน และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้เชื่อมั่นในตัวพรรคด้วย

แม้มีข้อสังเกตว่านายชวนที่มาจากภาคใต้และกลองสะบัดชัยของภาคเหนืออาจไม่เข้ากันหรือไม่ แต่ก็ชวนให้ตีความได้อีกว่า พรรคการเมืองนี้พยายามโน้มน้าวผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในภาคเหนือ ไม่ก็กำลังส่งข้อความถึงการอยู่ร่วมกันได้แม้แตกต่าง ก็ได้ด้วย

ไม่ใช่แค่นั้น การปรากฏตัวของนายชวนนั้นแสดงว่าพรรคมองนายชวน ว่ายังมีศักยภาพในการรั้งแฟนพันธุ์แท้ของพรรคเอาไว้ เพื่อเสริมทัพเลือกตั้งของนายจุรินทร์

โชว์ภาพลักษณ์ใหม่

ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ที่ดีต่อคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์อาจแผ่วลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสมาชิกกลุ่ม นิวเดม ยุติบทบาทลง

แต่ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาไม่มี “เลือดใหม่” ไหลเข้ามาเลย ซึ่งเอ็มวีนี้ก็พยายามชูคนใหม่ๆ ของพรรคมาเป็นอีกจุดขาย จากการปรากฏตัวของนางสาววทันยา ที่ย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ และนายเมธี นักร้องนำวงลาบานูน ซึ่งเป็นหน้าใหม่ในวงการการเมือง

อย่างไรก็ตาม การโน้มน้าวใจคนรุ่นใหม่ให้ได้นั้นยังเป็นโจทย์ที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องแก้และเสริมให้แข็งแกร่งขึ้น เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์พรรคอนาคตใหม่ ที่แม้เป็นพรรคใหม่แต่แซงหน้ากลายเป็นพรรคอันดับ 3 ของประเทศ มาแล้ว ด้วยกระแสและจุดยืนที่ชัดเจน ยังไม่ได้นับว่าการเลือกตั้งปี 2566 จะมีผู้มีสิทธิ์ออกเสียงใหม่ (New voters) เพิ่มขึ้นถึง 4 ล้านคน