“ประวิตร” เมินเพื่อไทย ประกาศตัวไม่จับมือ พปชร. ไ่ม่กังวลหากปปช. เปิดคดีนาฬิกา

พล.อ.ประวิตร ขึ้นรถไฟไปโคราช โยนสภาเลือกนายกฯ เมินเพื่อไทย ประกาศไม่จับมือ พปชร. ท้า ปปช. เปิดนาฬิกา ยันไม่กระทบการเมือง

ในระหว่างที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำคณะแกนนำพรรค ขึ้นรถไฟหาเสียงครั้งแรก หลังตนเองไม่ได้นั่งมานานกว่า 50 ปี เพื่อหาเสียงที่นครราชสีมา ซึ่งในระหว่างรถไฟจอดที่ชานชาลา ผู้สมัครรับเลือกตั้งจังหวัดปทุมธานี และประชาชน มามอบดอกไม้ก็เป็นกำลังใจให้กับพล.อ.ประวิตร พร้อม ขอให้ สู้ ๆ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

ขณะที่พล.อ.ประวิตร เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า การนั่งรถไฟครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นวิถีประชาชน ซึ่งพรรคก็มีนโยบายที่จะพัฒนาภาคอีสาน เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อช่วยงานในภาคอีสาน และเด็กอาชีวะมีงานทำ หรือว่า “อีสานประชารัฐ” ให้ได้ก่อน โดยหากเชื่อมต่อไปทางฝั่งกาญจนบุรี ยิ่งทำให้ ภาคอีสานจะเกิดความเจริญยิ่งขึ้น

ส่วนพื้นที่นครราชสีมา ที่จะไปช่วยผู้สมัครหาเสียงในวันนี้ ตั้งเป้าได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่าไหร่นั้น พลเอกประวิตร กล่าวว่า ต้องสอบถามนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และขุนพลในพื้นที่ว่าจะได้เท่าไหร่ ขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและเลขาธิการพรรค บอกขึ้นมาว่า ต้องการ 16 ที่นั่ง ส่วนที่ตั้งเป้าได้ ส.ส.มากที่สุดในภาคอีสานหรือไม่นั้น พลเอกประวิตร ยอมรับว่า ก็อยากได้ แต่ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ ก็อยากให้พี่น้องชาวอีสานเลือก เพื่อให้ได้ชนะเป็นที่ 1 ส่วนจะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของสภาฯ ที่จะเลือกกัน

ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประกาศไม่จับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐนั้น พลเอกประวิตร ระบุว่า ไม่เป็นไร ก็ว่ากันไปเพราะก็ไม่ได้ประกาศตัวว่าจะจับมือกับใคร ซึ่งการประกาศจะก้าวข้ามความขัดแย้ง คือ การอยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมงานร่วมกันได้ โดยเฉพาะทางการเมือง อยากจะให้ประเทศเป็นหนึ่งเดียว พร้อมยืนยันว่า แนวทางก้าวข้ามความขัดแย้ง คือต้องให้คนอยู่ร่วมกัน ต้องทำให้แผ่นดินเกิดมีความเจริญ จะต้องมีความร่วมมือกัน ซึ่งบรรยากาศทางการเมืองขณะนี้ ก็เอื้อให้ก้าวข้ามความข้ดแย้ง ประเทศเพื่อนมีหลายฝ่าย ก็ยังรวมกันได้ สร้างความเจริญให้ได้ เราต้องทำให้รู้ว่าเป็นคนไทย ต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน

ขณะที่ศาลปกครองมีคำสั่งให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เปิดเผยคดียืมนาฬิกาของตนเอง โดยพลเอกประวิตร ยอมรับ อยากให้เปิดมานานแล้ว พร้อมยืนยัน ไม่กระทบการเรื่องการเมือง เพราะไม่ได้เอาของใครมา ยืมก็เอาคืนเขาแล้ว