ผอ.ยันไม่ได้ไล่ออก นักเรียนหญิง ม.2 ถูกเพื่อนรุมโทรม แค่ให้ไปเรียนที่อื่น หวั่นเด็กถูกบูลลี่

โรงเรียนยันไม่ได้ไล่ออก นักเรียนหญิง ม.2 ถูกเพื่อนรุมโทรม แค่ให้ไปเรียนที่อื่น หวั่นเด็กถูกบูลลี่ ส่วนเด็กที่ก่อเหตุก็ไม่สามารถไล่ออกได้ 

จากกรณี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา กลุ่มนักเรียนชาย รวม 5 คน ร่วมกระทำชำเรา นักเรียนหญิง ในป่าอ้อยห่างจากโรงเรียน 1 กม. และเมื่อวันที่ 10 มกราคม ผู้ปกครองนักเรียนหญิงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สถานีตำรวจตำบลหนองโสน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร และได้พาลูกสาวเดินทางร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาหงสกุล วันที่ 24 มกราคม 2566

  • แม่ล้มทั้งยืน เห็นคลิปลูกสาว ม.2 ถูกเพื่อนนักเรียนชาย 5 คน จับขึงพืดรุมโทรมในป่า

พ.ต.อ สุเมธ เงินบำรุง สุเมธ เงินบำรุง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองโสน ได้เปิดเผยว่า ในขณะนี้ได้เรียกนักเรียนชายมาแจ้งข้อกว่าวหาครบแล้วจำนวน 5 คน โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ามีการดำเนินการร่วมกระทำชำเราจำนวน 3 คน และอีก 2 คน ช่วยกันจับนักเรียนสาว แต่ก็มีการแจ้งข้อหาร่วมกันกันโทรมหญิงทั้ง 5 คน ส่วนนักเรียนหญิงที่มีข่าวเป็นนกต่อนั้น ต้องมีการสอบสวนโดยละเอียดต่อหน้าสหวิชาชีพ ที่นัดสอบสวนที่สำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตร ในวันที่ 25 มกราคมนี้ อีกครั้ง แล้วจะดูว่ามีความเกี่ยวพันต่อคดีหรือไม่ และนักเรียนชายที่ถ่ายคลิป ใครเป็นผู้นำภาพเข้าไปเผยแพร่ในโซเชียล ก็จะถูกแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วย

ในขณะเดียวกัน นายพีรพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า กรณีมีข่าวว่าทางโรงเรียนไม่ยอมให้นักเรียนหญิงที่ถูกกระทำ เรียนที่โรงเรียนนั้น ทางโรงเรียนยืนยันว่าไม่เคยไล่นักเรียนผู้เสียหายไปเรียนที่อื่น แต่ทางโรงเรียนแนะนำว่าให้ไปเรียนที่อื่นก่อน เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจ เนื่องจากหากเรียนในโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชุมชน เกรงว่าจะเกิดปัญหาบูลลี่กันในหมู่เพื่อนนักเรียน และอาจจะเกิดปัญหาอื่นตามมา โดยหากเวลาผ่านไปสถานการณ์ดีขึ้น นักเรียนอาจจะกลับมาเรียนในระดับชั้นมัธยมปีที่ 4 ก็ได้ ซึ่งทางโรงเรียนได้แนะให้เป็นทางเลือกเท่านั้น

ส่วนนักเรียนชายทั้ง 5 คนได้ให้ผู้ปกครองไปหาที่เรียนใหม่แล้ว เนื่องจากตามระเบียบไม่สามารถไล่นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับการศึกษาภาคบังคับออกได้ โดยในวันนี้ได้รับแจ้งว่านางปวีณา โหสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา จะนำนักเรียนหญิงเดินทางมาที่สถานีตำรวจหนองโสน เพื่อคิดตามความคืบหน้าของคดีในช่วงเวลา 13.00 น.