ผัวเมียสุดงง ป้าเจ้าของตลาด ติดป้าย-ยืนด่าหน้าร้าน ไม่พอใจขายของแค่ช่วงเย็น

พ่อค้าแม่ค้าสุดทน โร่แจ้งความ เจ้าของตลาดนำป้ายติดหน้าร้าน แถมมายืนด่า เหตุไม่พอใจที่ไม่เปิดร้านขายทั้งวัน ทั้งที่จ่ายค่าเช่าตรงตามกำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.ท.วิเชียร พรหนองแสน สว.(สอบสวน) สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ได้รับแจ้งความจาก นายพัฒนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี และ น.ส.มานิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ภรรยา ซึ่งเปิดร้านขายอาหารทะเลสดที่ตลาดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

กรณีทางเจ้าของตลาดสดได้นำป้ายที่มีข้อความว่า “บุคคล อันตราย ใครโดนหลอกให้เช่า ระวังโดนทำลายทางโซเชียล” และยังติดแผ่นข้อความอีกแผ่นมีใจความว่า “ห้ามเอาออก จนกว่าจะย้ายออก และถ้าทำลายบ้านให้เสียหายมากกว่าเดิม ก็จะโดนกระหน่ำทางโซเชียล เพราะได้ถ่ายภาพไว้แล้ว” ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเกิดความเสียหาย

นายพัฒนะ พ่อค้าขายอาหารทะเลสด ให้การว่า ตนเองกับภรรยาได้มาเช่าล็อกเป็นห้องเช่าขายของในตลาดแห่งนี้ มีการทำสัญญาเช่าเดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 6 เดือน โดยมีการแจ้งว่าจะขายอาหารทะเลสด โดยจะเปิดร้านตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป

แต่หลังจากที่เปิดร้านมาประมาณ 2 เดือน ปรากฎว่าทางป้าเจ้าของตลาดได้มาต่อว่า เริ่มจากให้ขายทั้งวัน แต่ทางตนเองทำไม่ได้ เพราะไม่คุ้มค่าจ้างลูกจ้าง จึงเปิดเฉพาะช่วงเย็น จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่เจ้าของตลาด จนมาต่อว่า และบังคับให้เปิดขายทั้งวัน

ช่วงแรกที่มีการมาต่อว่าตนก็เคยปรับตามที่เค้าบอก หลังๆ มาตนก็ไม่ทำตาม จึงสร้างความไม่พอใจ มีการมายืนด่าหน้าร้านหลายตนหลายครั้ง จนทำให้ลูกค้าไม่กล้าเข้าร้าน ซึ่งได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน จนกระทั่งวันนี้ได้นำป้ายข้อความมาติด จนทำให้รับไม่ได้ จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท

ด้าน น.ส.มานิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ภรรยา เปิดเผยว่า นับเป็นเจ้าของตลาดที่แปลกมาก ซึ่งความจริงผู้เช่าจ่ายเงินค่าเช่าตรงตามกำหนด จะขายหรือหยุด ก็เป็นสิทธิ์ของผู้เช่า

พอขายอาหารทะเลสด มีกุ้งมังกรที่ยังขายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเลี้ยงไว้ ก็ถูกห้าม จนไม่อยากมีปัญหาจึงเลิกขาย แล้วยังห้ามขายทางออนไลน์ บอกว่าถ้าขายทางออนไลน์ให้ไปขายที่บ้าน

ที่ผ่านมามีผู้เช่ารายอื่นเจอสถานการณ์เดียวกับตนเอง จนต้องออกไป ก็ไม่ทราบว่าเจ้าของตลาดคิดอย่างไรถึงทำแบบนี้ จึงจำเป็นต้องปกป้องตัวเองด้วยการแจ้งความ เพราะสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของร้าน

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ เตรียมเรียกทางเจ้าของตลาดที่ถูกกล่าวหามาสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และจะดำเนินการตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น