ผู้รอดชีวิตคนเดียว เล่านาทีเกิดเหตุ รถตู้ไฟไหม้ 11 ศพ เตรียมบวชให้เพื่อนร่วมทาง

ผู้รอดชีวิตคนเดียว จากอุบัติเหตุรถตู้โดยสารไฟไหม้ 11 ศพ เตรียมบวชให้เพื่อนร่วมทาง เผยนาทีเกิดเหตุสุดบีบหัวใจ

จากกรณีอุบัติเหตุเมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (21 ม.ค.66) รถตู้โดยสารเสียหลักพุ่งชนราวเหล็กกั้นทางเกาะกลางถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 100 – 99 บ้านมอจะบก ตำบลมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา จนเกิดไฟลุกไหม้ท่วมรถตู้ทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 11 ราย และมีผู้รอดชีวิตหวุดหวิดคลานหนีออกมาจากรถได้ทันอีก 1 ราย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (22 ม.ค.66) นางศิริจันทร์ อายุ 40 ปี แม่ของนายธนชิต ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ได้เดินทางมาเยี่ยมอาการลูกชายที่โรงพยาบาลสีคิ้ว โดยนางศิริจันทร์ เล่าว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตนเองได้รับโทรศัพท์จากหลานชายแจ้งว่ารถตู้ที่ลูกชายนั่งมาประสบอุบัติเหตุที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่ลูกชายรอดชีวิตเพียงคนเดียว ซึ่งขณะนั้นตนเองรู้สึกตกใจมาก ไม่รู้ว่าลูกชายที่รอดชีวิตจะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดไหน จึงได้เหมารถแท็กซี่มาจาก จ.นครปฐม เพื่อมาเยี่ยมอาการลูกชาย

ระหว่างทางที่นั่งรถมาก็โทรศัพท์สอบถามกับโรงพยาบาลสีคิ้ว และได้คุยกับลูกชาย ซึ่งทราบว่าอาการบาดเจ็บไม่หนักมาก จึงรู้สึกโล่งใจ โดยลูกชายเล่าให้ฟังว่าขณะเกิดเหตุไฟกำลังลุกไหม้ ได้ยินเสียงคนในรถทั้งเด็กและผู้ใหญ่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่ตนเองไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะต้องรีบมุดหน้าต่างออกมาเอาตัวรอดก่อน ซึ่งลูกชายรู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ลูกชายก็จะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตที่นั่งรถตู้มาด้วยกัน พร้อมทั้งเป็นการบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ที่รอดชีวิตชีวิตในครั้งนี้ด้วย

ด้านพันตำรวจเอก ยงยศ พลเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสีคิ้ว เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า รถตู้คันเกิดเหตุ เป็นรถตู้โดยสารยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 30-0078 อำนาจเจริญ รับผู้โดยสารเดินทางมาจากจังหวัดอำนาจเจริญมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่กรุงเทพฯ หลังเกิดอุบัติเหตุสภาพตะแคงอยู่ร่องกลางของถนน ถูกไฟลุกไหม้ท่วมวอดทั้งคันรถ มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกอยู่ภายในรถ รวมทั้งคนขับจำนวน 11 ราย และมีผู้รอดชีวิต 1 ราย คือ นายธนชิต อายุ 20 ปี เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากการขับรถเร็ว ความประมาท หรือคนขับอาจหลับใน

ทั้งนี้ ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานจากปากคำพยาน และกล้องวงจรปิดใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งจึงจะสามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาติดต่อขอดูศพ เนื่องจากยังเดินทางมาไม่ถึง ซึ่งภายในวันนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งทยอยส่งศพผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย ไปตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากสภาพศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกไฟไหม้จึงยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้