ผู้ว่า กทพ. เผยแล้ว 2 สาเหตุทำคานปูนหล่น ถ.พระราม 2 ยันเยียวยาเหมาะสมเป็นธรรม

ผู้ว่า กทพ. เผยผลสอบอุบัติเหตุคานคอนกรีตตกบน ถ.พระราม 2 พร้อมสั่งเพิ่มมาตการเข้ม ยืนยันเยียวยาเหมาะสมและเป็นธรรม

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยผลการสอบสวนกรณีเกิดอุบัติเหตุคานคอนกรีตของโครงการทางพิเศษ (ด่วน) ขณะติดตั้งบนถนนพระราม 2 ถล่มว่า จากการเข้าตรวจสอบอุปกรณ์และวัสดุที่เป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย

พบว่า สาเหตุที่ก่อให้การเกิดอุบัติเหตุมี 2 สาเหตุ คือ เรื่องของวัสดุ PT Bar หรือเหล็กรับแรงดึงสูง ที่นำมาใช้งานมีความบกพร่อง ทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักชิ้นงานที่ยกได้และขาดลงมา แม้ว่าการยกชิ้นงานนี้ใช้ PT Bar 4 เส้น และสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 4 เท่าของน้ำหนักชิ้นงาน แต่อุปกรณ์ PT Bar นั้น หากใช้ซ้ำหลายๆ ครั้ง อาจเกิดการล้าในเนื้อวัสดุ หรืออาจมีการทุบกระแทกให้มีตำหนิหรือเกิดรอยแตกภายในเนื้อวัสดุ ส่วนสาเหตุการล้าหรือมีตำหนิในวัสดุนั้น อยู่ระหว่างการนำ PT Bar ที่ขาดไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ

ส่วนสาเหตุที่สองคือผู้ปฏิบัติงานไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการก่อสร้างอย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า มีการดำเนินการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กทพ. ได้มีมาตรการยกระดับความปลอดภัยอีกขั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในทุกโครงการก่อสร้างที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการจราจรสัญจรไปมา ทั้งโครงการในปัจจุบัน และในอนาคต จึงได้หารือร่วมกับกรมทางหลวง (ทล.) เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างบนถนนพระราม 2

โดยกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในระยะสั้น ดังนี้

1.กำหนดให้มีการทดสอบวัสดุ PT Bar ด้วยวิธี Ultrasonic Testing หรือ Magnetic Particle Testing ทุก ๆ 30 ช่วงเสา จากเดิมตรวจสอบทุก ๆ 50 ช่วงเสา

2.ขั้นตอนการติดตั้งคานคอนกรีตสำเร็จรูป ให้ดำเนินการเฉพาะช่วงที่มีการปิดกั้นการจราจร และช่วงเวลากลางคืน และมีการปิดเบี่ยงจราจรไปแล้วเท่านั้น จนกว่าขั้นตอนการดึงลวดจะแล้วเสร็จ โดยการประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนทราบล่วงหน้า

3.ให้ผู้รับจ้างโซนที่เกิดเหตุทำการเปลี่ยนชุด PT Bar ใหม่ยกชุด พร้อมตรวจสอบใบรับรองวัสดุก่อนเริ่มปฏิบัติงาน

4.เพิ่มการติดตั้งระบบเซนเซอร์อุปกรณ์หลักที่ใช้ในการยกแขวนคอนกรีตเพื่อการมอนิเตอร์ระบบการทำงาน และแจ้งเตือนไม่ให้ทำงานเกิดขีดจำกัดของอุปกรณ์ และ

5.ติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อตรวจสอบจุดเสี่ยงในการทำงานของอุปกรณ์

ทั้งนี้ นายสุรเชษฐ์ กล่าวถึงเรื่องเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิต 1 รายและผู้ได้รับบาดเจ็บอีกทั้ง 5 รายว่าอยู่ระหว่างการเจรจาค่าทำขวัญ และค่าเสียโอกาสของเจ้าของรถ 1 ราย ซึ่ง กทพ. ได้สั่งการให้ผู้รับจ้างเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และเจ้าของรถที่ได้รับความเสียหายให้เหมาะสมและได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด