ฝ่ายค้านยินดีกับนายกฯ ได้ไปต่อ แต่เสียใจกับประชาชน

“ชลน่าน” นำทีมฝ่ายค้านยินดีกับนายกฯได้ไปต่อ เสียใจกับประชาชน ย้ำแม้เสียงในสภาจะไม่ชนะ แต่ยุทธการ เด็ดหัวสอยนั่งร้าน ไม่ได้พ่ายแพ้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร , นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ,นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคามพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และสมาชิกพรรค ร่วมแถลงข่าวภายหลังการลงมติ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยอมรับผลการลงมติตามกลไกของรัฐสภา ที่วัดจากผลข้างมากเป็นหลัก แม้คาดหวังว่าสิ่งที่ทำหน้าที่ ข้อกล่าวหาและหลักฐานจะชัดเจนเพียงใด แต่ไม่มีผลต่อการลงมติไม่ไว้วางใจดังนั้น ขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี พร้อมขอแสดงความเสียใจกับประชาชน แม้จะมีผลโหวตไม่ไว้วางใจถึงร้อยละ 98.3 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ประชาชนต้องการ

อย่างไรก็ตามแม้เสียงในสภาจะไม่ชนะ แต่ย้ำว่า ยุทธการ เด็ดหัวสอยนั่งร้านที่พรรค เพื่อปล่อยออกมานั้นไม่ได้พ่ายแพ้ และมั่นใจภาพนั้นจะเกิดขึ้นจริงเมื่อมีการเลือกตั้ง

ด้าน นายประเสริฐ กล่าวว่าแม้ผลการลงมติอาจเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์แต่คตกที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ประชาชนต้องการออกเสียงข้างนอกที่ลงมติไม่อยากให้รัฐบาลนี้ทำหน้าที่ต่อไปแล้วทั้งนี้ยังมีภารกิจต่อไป อยากให้กำลังใจประชาชนและสมาชิกในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเป็นผลชี้วัดอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งพรรคเพื่อไทยและฝ่ายค้านได้แสดงให้เห็นถึงเอกภาพแตกต่างจากพรรครัฐบาลที่คะแนนรัฐมนตรีแต่ละคนและรัฐมนตรีระหว่างพรรค ค่อนข้างชัดเจน อย่างเช่นคะแนนของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ได้คะแนนไว้วางใจต่ำที่สุดชี้ให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพของรัฐบาล พร้อม ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยจะทำงานอย่างหนักต่อไป เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมเตรียมหลักฐานยื่นต่อ ปปช. และ ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป

ขณะที่นายสุทิน กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ผิดหวังกับผลโหวต แต่หวังว่าระบบสภาจะเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนได้ แม้ผลการลงมติวันนี้ รัฐมนตรีทุกคนจะผ่าน แต่ก็มีนัยยะที่ได้แสดงออกมาโดยอยากให้ดูคะแนนงดออกเสียง ซึ่งโน้มเอียงมาทางฝ่ายค้าน รวมถึงความลดหลั่นของคะแนนเสียง แต่ละคน และในระหว่างพรรค ที่สำคัญคือ ฝ่ายค้านได้รู้ ได้เห็นในสิ่งที่ไม่รู้ และ เชื่อว่าสิ่งที่รัฐมนตรีหลายคนได้รับกลับไป คือ “โรคติเตียน” เพราะจะมีข้อคอรหาคำติฉินนินทา และ มีข้อกังขาคิดตัวไปอีกนาน นอกจากนั้นหลายคนอาจจะได้รับโทษในนกระบวนการยุติ หรืออาจไปจนถึงการยื่นยุบพรรคการเมือง