พี่ชายทาสยาเอาไม้ทุบตี บังคับน้องไปซื้อยาบ้า น้องสุดทนยิง 1 นัดเข้าเบ้าตาดับอนาถ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.อ.สฤษฏ์พงศ์ ไพศาล รอง สว.สอบสวน สภ.วังสามหมอ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต พื้นที่ ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังสามหมอ และชมรมวีอาร์กู้ภัยวังสามหมอ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบศพ นายอาร์ม อายุ 38 ปี ชาว อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด นอนหงายเสียชีวิตอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ มีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาด ที่เบ้าตาขวากระสุนฝังใน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่า นายโอ อายุ 22 ปี ได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ

ต่อมาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเกิดเหตุ พบกับยายของนายโอ ผู้ก่อเหตุ นำชี้จุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นญาติห่างๆของครอบครัว ได้บุกพังประตูเข้ามาทางหลังบ้าน ก่อนใช้ท่อนไม้เข้ามาทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนที่นอนอยู่ ผู้ก่อเหตุได้คว้าปืนที่วางไว้ข้างตัวออกมาป้องกันตัว เปิดประตูหน้าบ้านวิ่งหลบหนี ผู้ตายถือไม้วิ่งไล่ตามหลังมา ผู้ก่อเหตุจึงตัดสินใจหันหลังยิงสวนไป 1 นัด กระสุนเจาะเข้าเบ้าตาผู้ตาย จนนอนแน่นิ่งไป

ยายเล่าว่า บ้านหลังนี้อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีตนเอง, สามี อายุ80 ปี ,ผู้ก่อเหตุ และหลานชายอายุ 19 ปี ซึ่งหลานทั้ง 2 คน รับจ้างทั่วไป ไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง ส่วนผู้ตายเป็นญาติห่างๆ กัน เดิมทีตนเป็นคน จ.ร้อยเอ็ด แต่มีครอบครัวอยู่ที่นี่ เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน ผู้ตายได้มาหาที่บ้าน และขอความช่วยเหลือเนื่องจากตกงาน ตนจึงให้อาศัยอยู่ด้วยชั่วคราว ก่อนไปรับจ้างกรีดยาง อาศัยอยู่ตามกระท่อมในสวน รู้ดีว่าหลานมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้ว่ากล่าวตักเตือนไป แต่หลานก็ไม่ฟัง

เมื่อเช้านี้เวลาประมาณ 06.00 น. ขณะกำลังนึ่งข้าวและทำอาหาร ผู้ตายได้พังประตูห้องครัวหลังบ้านเข้ามา ถามหาผู้ก่อเหตุ และถามกันเรื่องยาบ้า เถียงกันไปมาเสียงดัง ก่อนมีการทำร้ายร่างกายกัน จนนายโอ ผู้ก่อเหตุวิ่งหนีออกไปทางประตูหน้าบ้าน ไม่กี่วินาทีก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตนจึงวิ่งออกมาดู ก็เห็นผู้ตายนอนนิ่งอยู่ที่พื้น มีเลือดไหลที่ศีรษะ จึงตะโกนเรียกให้คนมาช่วย ไม่นาน อสม.หมู่บ้านมาถึง จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนผู้ก่อเหตุก็วิ่งหลบหนีไป ตนจึงบอกให้หลานชายไปเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุให้มอบตัว เพราะมองว่าเป็นการป้องกันตัว โทษหนักจะได้เป็นเบา

ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไป สภ.วังสามหมอ หลังทราบว่าผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว โดยมีน้องชายพาเข้ามอบตัว ซึ่งได้ให้ปากคำในเบื้องต้นกับพนักงานสอบสวน และได้ทำการตรวจหาเขม่าดินปืนที่มือทั้ง 2 ข้าง ก่อนพิมพ์ลายนิ้วมือเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนแก็บไทยประดิษฐ์ กระสุนเป็นลูกตะกั่วกลม ผู้ก่อเหตุอ้างว่าได้วางทิ้งไว้ในครัวหลังบ้าน ไม่ทราบว่ามีใครหยิบไปไว้ไหน ซึ่งชุดสืบสวนจะได้เข้าไปค้นหาที่บ้านเกิดอีกครั้ง ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นรับสารภาพว่าก่อเหตุยิงผู้ตายจริง แต่เป็นการป้องกันตัวเท่านั้น

น้องชายของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนและผู้ก่อเหตุเป็นพี่น้องกัน เป็นเด็กกำพร้าอยู่กับยายมาตั้งแต่เล็ก แม่ติดต่อไม่ได้นานหลายปี พ่อเป็นชาว สปป.ลาว ติดต่อไม่ได้เช่นเดียวกัน พวกตนถูกผู้ตายข่มเหงรังแกมาตลอด มักจะบังคับให้พวกตนไปซื้อยาบ้าหรือไปหายาบ้ามาให้เสพ เมื่อไม่ได้ตามต้องการก็จะทุบตี ใช้อาวุธเป็นไม้ เป็นมีด ทำร้ายร่างกายมาตลอด

ผู้ตายไม่ใช่คนที่นี่ รู้แค่ว่าเป็นญาติห่างๆ ของยาย มาขอที่อยู่ มาของาน เขาเคยเล่าให้ฟังว่าเขาหนีคดีมา แต่ก็ไม่รู้ว่าคดีอะไร อาจจะข่มขู่พวกตนเฉยๆ พวกตนทั้ง 2 คน ก็ไม่อยากมีเรื่อง หากถูกกระทำก็จะหนีห่างออกมา ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย วันนี้พี่ชายตนคงจะเหลือดอดแล้ว ขอร้องห้ามปราบก็ไม่ฟัง จึงตัดสินใจยิงออกไปเพื่อป้องกันตัว

ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ขณะยายกำลังหุงหาอาหาร ตนเองและน้องชายรู้สึกตัวตื่นแล้ว คุยกันว่าจะออกจากบ้านไปหาของป่า แต่ผู้ตายก็บุกเข้ามาหาเรื่องก่อน เขาเข้ามาข่มขู่บอกให้ตนไปหาซื้อยาบ้ามาให้เสพ ตนก็บอกไปว่าไม่มี และไม่รู้ว่ามีใครขายหรือไม่ แต่เขาก็ไม่ฟัง ก่อนใช้ท่อนไม้ที่ถือมาฟาดตนหลายครั้ง ตนเห็นท่าไม่ดีจึงคว้าเอาปืนมาด้วย ผู้ตายยังคลั่งอาละวาดไม่หยุด วิ่งถือไม้ตามหลังมา จึงตัดสินใจยิงปืนออกไป 1 นัด เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น เมื่อเห็นว่าเขานอนนิ่งไปแล้ว ก็วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าไม่ไกลจากหมู่บ้าน เมื่อตั้งสติได้จึงกลับเข้าบ้านและบอกน้องชายให้พามามอบตัว หากตนไม่ยิงป้องกันตัว อาจจะเป็นตนก็ได้ที่จะต้องตายในวันนี้ มันเหลืออดจนถึงที่สุดแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอาวุธปืนยังไม่สามารถค้นหาติดตามได้ เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีญาติที่มีบ้านอยู่ใกล้กันเป็นจำนวนมาก อาจจะมีคนถือไปซุกซ่อนไว้ ผู้ก่อเหตุรับเพียงว่า ทิ้งปืนเอาไว้หลังบ้านแล้วหลบหนีไป ส่วนศพผู้ตาย ได้นำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อผ่าพิสูจน์หัวกระสุน ก่อนจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่บ้านเกิดใน จ.ร้อยเอ็ด ต่อไป