หนุ่มอุดรวัย 23 น้อยใจกอดเข่านั่งเศร้ากลางถนน พ่อปวดหัวลูกชายเทวดาเอาแต่ใจ รับปากวันนี้จะมารับแล้ว
หนุ่มอุดรฯ กอดเข่าเศร้านั่งกลางถนน หวังให้รถเหยียบตาย พ้อพ่อไม่มารับ รอนานถึง 11 ปี ได้เงินวันเกิดแต่ตา-ยายทวงคืน ล่าสุดดีใจพ่อจะมารับแล้ว ขณะที่พ่อเผยอีกมุม สุดปวดหัวมีลูกชายคนเดียวเอาแต่ใจ เป็นลูกเทวดาทำทุกอย่างเพื่อลูก เคยพามาทำงานด้วยแต่เป็นภาระ ขอลองดูสักตั้งพามาอยู่ด้วยที่กรุงเทพฯ จะเป็นอย่างไร
วันนี้ (9 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณี นายโอ๊ต อายุ 23 ปี หนุ่มบ้านหนองเตยโนนสวรรค์ ต.บ้านดุง อ.บ้านดุง จงอุดรานี เกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจตาและยาย ที่ทวงเอาคืน 200 บาท ที่ให้ในงานวันเกิดคืน มิหนำซ้ำพ่อรับปากจะมารับไปทำงานด้วยที่กรุงเทพฯ รอมาตั้งแต่ ป.6 จนถึงตอนนี้อายุ 23 ปี ไม่มารับ จึงเกิดคิดน้อยใจชีวิตตัวเองหวังจบชีวิตตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยกลางถนน พลเมืองแจ้งช่วยเหลือ ต่อมา นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต และตำรวจ สภ.บ้านดุง ได้มาเกลี้ยกล่อม และอาสาไปส่งที่บ้านได้อย่างหวุดหวิด
วันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนายโอ๊ต พบกับคุณยายกองศรี อายุ 67 ปี ยายของนายโอ๊ต เปิดเผยว่า หลานคนนี้ตอนเด็กๆ ดีมาก แต่พอมาเข้า ป.4 ที่โรงเรียนใกล้บ้านเกิดมีอาการชัก หลานเป็นคนขี้น้อยใจ หากเกิดอาการน้อยใจตาและยาย ก็จะหนีออกจากบ้านเป็นประจำ ปกติแกไม่ได้ทำงาน อยากจะไปทำงานช่างล้อแม็กกับพ่อ ที่ว่าไม่ได้เจอพ่อมา 11 ปีไม่ใช่เลย ช่วงดำนาปีนี้พ่อก็มา พ่อมาทุกปีอยู่แล้ว ลูกชายกลับมาบ้านบ่อยมากจนไม่มีเงินค่ารถ ยอมรับหลานชายมีอาการทางประสาทด้วย วันดีคืนดีก็เดินไปที่โรงพักไปให้ตำวจจับไปเฉยๆ ส่วนที่ไปนั่งกลางถนนจะฆ่าให้ตาย เพราะโกรธให้ตาและยายดึงเงินคืน 200 บาท
อย่างเมื่อวานพอตำรวจรับมาส่งที่บ้าน ก็หนีไปอีกไม่กลับมาบ้าน เพิ่งกลับบ้านมาตี 4 วันนี้ ยังมาทักยายว่า ยายทำไมตื่นเช้าจัง ยายก็ตอบไปถึงเวลาก็ลุกนึ่งข้าวใส่บาตร เป็นแบบนี้ปวดหัวมาก จากนี้ไปก็จะให้พ่อเขาเอาไปดูเลย แต่ก็สงสารลูกชายทำงานที่กรุงเทพฯ เขามีภาระหาเงินเลี้ยงชีพ ต้องเอาลูกชายเอาแต่ใจไปอยู่ด้วย สงสารทั้งลูกและหลานชายคนนี้อย่างมาก และอีกอย่างลูกชายที่อยู่กรุงเทพฯ กลัวหลานชายฆ่า เพราะเคยถือไม้ใส่ตาและยายหลายครั้งแล้ว หลานชายคนนี้รักพ่อเขามาก เพราะแม่หนีไปตั้งแต่เด็ก บางทีก็เหมือนเขามีปมด้อย
ขณะที่ นายโอ๊ต บอกว่า ที่ไปนั่งกลางถนนอยากฆ่าตัวตาย เพราะเครียด รักพ่อมาก พอพ่อรู้ข่าวพ่อจะส่งขึ้นรถตู้ให้ไปหาในวันเสาร์ที่ 10 ธ.ค. ไปกรุงเทพฯ ก็จะไปทำงานกลึงแม็กซ์ช่วยพ่อที่ร้าน ตนเองมีโรคหอบหืดและโรคลมชัก แต่ก็พอช่วยพ่อทำงานได้อยู่ วันที่ 7 ธ.ค.วันเกิดพ่อส่งเงินมาให้ 300 บาท แต่ตาและยายขอเงินไปซ่อมรถซาเล้ง ก็เลยทำให้โกรธจึงอยากฆ่าตัวตาย แต่ตอนนี้สบายใจขึ้นแล้ว และดีใจที่พ่อจะมารับ จะประคองสติไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายๆ กับตัวเองอีก
ขณะที่ นายวันชัย ชอายุ 48 ปี พ่อของนายโอ๊ต เปิดเผยว่า ตนเองมีลูกชายคนเดียว แต่ชอบเล่นเกมโทรศัพท์ ก่อนที่ลูกชายจะไปนั่งกลางถนนให้รถเหยียบตาย เมื่อวันเกิดของเขาเขาก็ขอตังค์ตาและยาย ตนเองก็โอนไปให้ แต่ตาและยายดันไปขอเงินไปซ่อมรถ ทำให้น้อยใจ ยอมรับลูกชายเป็นคนเอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องปุ๊บปั๊บตอนนั้นเลย ตอนที่ลูกชายนั่งกลางถนนก็ได้โทรไปหาลูกชายอยู่ ถามว่าโอ๊ตเป็นอะไร กลับบ้านเลย แต่ลูกชายก็บอกว่า ไม่กลับ จะตายหลังวันเกิดนี่แหละ ตนก็เลยบอกว่าทำไมพูดอย่างนั้น จะตัดช่องน้อยแต่พอตัวก็แล้วแต่ ลูกชายก็บอกว่าแล้วแต่จะตายให้ดู จากนั้นก็ตัดสายไปเลยจนรู้เป็นข่าว ที่ผ่านมาเคยฆ่าตัวตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เหตุเพราะอารมณ์น้อยใจ
ส่วนที่เขาบอกว่าพ่อไม่มารับไปอยู่ด้วยนาน 11 ปีนั้น ตนเองกลับบ้านบ่อยก็เห็นหน้าประจำ เคยพาลูกชายมาอยู่และทำงานด้วย แต่เขามีอาการลมชัก ต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่ได้ทำงาน ตนก็ไม่ได้ทำงาน และต้องมีค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลอีก จึงเอาไปอยู่กับตาและยาย จากนี้จะลองดูสักตั้ง ลูกชายอยากมาทำงานและมาหาพ่อ ก็จะให้ลูกชายขึ้นรถตู้มาหาในวันที่ 10 ธ.ค.นี้เลย ลองให้มาทำงานดูอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร
ความคิดของลูกชายคนนี้ อายุมากแล้วแต่ความคิดเป็นเด็ก หมกมุ่นกับโทรศัพท์ ไม่เสพยา แต่มีอาการป่วยลมชักต้องกินยาประจำ บางทีลูกชายน้อยใจโทรมาหาบอกว่า ตาและยายรักหลานคนอื่นมากกว่า ตนเองก็ปวดหัว แต่ก็รักลูกเหมือนเดิมแม้ลูกจะเป็นอย่างไร จะรับลูกชายมาทำงานและอยู่ด้วยสักตั้งหนึ่งลองดู ตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวเพราะแม่เขาหนีไปตั้งแต่ 7 เดือน ตั้งใจว่าลูกชายโตขึ้นจะได้กินแรง แต่มาจนถึงตอนนี้มาแรงกว่าบ้าอีก