ยิ่งกว่าในละคร หนุ่มผวาถูกอดีตแฟนสาวคุกคามสารพัด เผยเหตุผลที่ต้องบอกเลิก

หนุ่มร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกอดีตแฟนสาวคุกคาม วีรกรรมเพียบ โทรหาเพื่อนทุกคน, จ้างไรเดอร์มาเฝ้า, บุกบ้านทำลายข้าวของ ฯลฯ ล่าสุด จ้างคนไปปาหินใส่บ้านน้า

จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจสายไหมต้องรอด โพสต์เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งขอความช่วยเหลือกรณีถูกอดีตแฟนสาวคุกคาม ก่อเหตุสารพัดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ล่าสุด ยังจากนักเลงมาปาหินใส่หน้าบ้านที่ จ.นนทบุรี พร้อมวอน ผกก.สภ.บางใหญ่ ตำรวจภูธรภาค 1 มาช่วยเหลือ 

ล่าสุด วันนี้ (15 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายธนากร อายุ 35 ปี เพื่อสอบถามถึงเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ทราบว่าเหตุการณ์ ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เวลาประมาณ 00.30 น. บ้านญาติที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ถูกคนร้ายเป็นชายจำนวน 2 คน บุกเข้าไปใช้ก้อนหินปาใส่รถยนต์และกระจกบ้านเสียหาย คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 บาท

นอกจากนี้ บ้านของนายธนากร ถูกขโมยและทำลายได้รับความเสียหายเช่นกัน คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องราวที่เกิดจากอดีตแฟนที่เลิกรากันไป มาคุกคามและก่อเหตุดังกล่าว จนทำให้ตอนนี้ผู้ร้องต้องประกาศขายบ้านเพื่อย้ายหนี

จากการสอบถาม นายธนากร กล่าวว่า หลังจากตนยุติความสัมพันธ์กับแฟนสาว ได้ประมาณ 2 เดือนกว่านับตั้งแต่วันที่ยุติความสัมพันธ์จนถึงปัจจุบัน ตนยังโดนระราน ตนเหมือนถูกเฝ้าตามและทำลายข้าวของ ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและไม่ปลอดภัย ตนจึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือเนื่องจากตนอยู่ตัวคนเดียว

ซึ่งลักษณะการระรานมีการตามในเฟซบุ๊กส่วนตัว และได้แอดเพื่อนตนในเฟซบุ๊ก ซึ่งเพื่อนของตนได้โทรมาบอกว่ามีผู้หญิงโทรมาขอข้อมูลส่วนตัว การกระทำที่หนักข้อขึ้น คือมีการทำลายข้าวของต้นไม้ภายในบ้านตน ตุ๊กตาโชว์หน้าบ้านถูกนำไปทิ้งถังขยะ แม้กระทั่งรองเท้าของตน อดีตแฟนก็เอาไป ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขาจะทำไปเพื่ออะไร

นอกจากนั้น ยังมีคนมาเฝ้าติดตาม ซึ่งหน้าหมู่บ้านมีจุดพักรองานของไรเดอร์ และรู้จักกับทางนิติบุคคลได้มาแจ้งว่ามีบุคคลปริศนามาถามหาบ้านเลขที่ของตน และคอยติดตามการเดินทางเข้าออกของตนต้นจึงทราบว่ามีคนมาเฝ้า

ส่วนสาเหตุที่เลิกรากับอดีตแฟน เพราะตนจับได้ว่าเขามีการคุยกับผู้ชายอื่น หลังจากเลิกรากันประมาณ 2 เดือนกว่าก็ถูกระรานมาตลอด ทั้งบ้านที่ราชพฤกษ์และบ้านที่บางใหญ่ ซึ่งเหตุทั้งการณ์ทั้งสองบ้าน ที่ตนได้แจ้งความไว้หมดแล้ว

ตนเคยโทรไปเพื่อสอบถามถึงสาเหตุ แต่ทางฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมเลิกรา อยากจะกลับมาคบกันเหมือนเดิม แต่ตนคิดว่ามันจบแล้วต่างคนก็ต่างไปใช้ชีวิต แต่ฝ่ายหญิงไม่จบระรานตน เพื่อนตน และครอบครัวตน ตอนนี้ตนอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้จึงต้องประกาศขาย และขอความช่วยเหลือ

ด้าน นายธวัชชัย อายุ 52 ปี น้าเขยของนายธนากร กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.30 น. ขณะนั้นตนนอนพักอยู่ชั้นบนได้ยินเสียงเหมือนมีของหล่นในบ้าน ซึ่งเสียงดังมากจนเพื่อนบ้านได้ยิน และภรรยาตนก็กำลังจะเข้าห้องน้ำพอดีได้ยินเสียงเหมือนกันจากนั้นช่วงเช้า

ภรรยาตนกำลังจะออกข้างนอกก็พบว่า กระจกด้านหน้าบ้านแตกและมีเศษก้อนหินตกอยู่ ที่พื้นหน้าบ้าน ลักษณะคล้ายก้อนหินที่แตกมาจากปูน ก้อนใหญ่ประมาณเท่าฝ่ามือน่าจะเป็นหินที่มีการเตรียมมา นอกจากกระจกหน้าต่างบ้านแล้ว ที่หลังคารถยังมีร่องรอยด้วยเหมือนกัน ตนคาดว่าน่าจะขว้างมาโดนหลังคารถและกระเด็นไปถูกหน้าต่างแตก

หลังจากนั้นตนได้ติดต่อทางนิติบุคคลหมู่บ้านเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าช่วงเวลาเที่ยงคืนกว่า มีชาย 2 คนขับรถจักรยานยนต์เข้ามา เมื่อขับรถเข้ามาก็มาจอดที่ ระหว่าง หน้าปากซอย 19 ถึง 21 ชายคนที่ซ้อนท้ายก็เดินตรงมาที่ด้านหน้าบ้านตน

จากนั้นกล้องด้านในไม่สามารถจับภาพได้ หลังจากนั้นกล้องตัวเดิมได้จับภาพชายคนดังกล่าวรีบวิ่งออกไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ และขับออกจากหมู่บ้านไป

เบื้องต้น เหตุการณ์ทั้งสองแห่งได้แจ้งความไว้หมดแล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี เพื่อครอบครัวจะได้ไม่ต้องหวาดระแวง และได้รับความเดือดร้อนอีก