รวบแล้ว! มะปราง สาวแสบ ทำพ่อผัวรื้อบ้านเก้อ หลอกชาวบ้านจะส่งทำงานที่เกาหลี

ตำรวจตามรวบได้แล้ว น้องมะปราง สาววัย 24 หลอกเงินชาวบ้านอ้างส่งไปทำงานเกาหลี หลอกให้พ่อผัวรื้อบ้าน ขายฝันจะสร้างใหม่ให้ สุดท้ายหอบเงินเกือบ 2 ล้าน หลบหนี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ม.ค.) ตำรวจ สภ.บางละมุง ร่วมกับ ตำรวจ สภ.ลำปลายมาศ ตำรวจภูธรภาค 3 นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ลงวันที่ 7 ม.ค.เข้าจับกุม น.ส.สุภรัตน์ หรือ มะปราง อายุ 24 ปี ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

หลังได้ทำการหลอกลวงชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.ลำปลายมาศ อ.นางรอง และต่างหวัดทางเฟซบุ๊ก ให้หลงเชื่อว่าสามารถพาไปทำงานที่ประเทศเกาหลี ได้ค่าแรงเดือนละ 60,000 บาท ไม่ต้องจ่ายค่าเครื่องบิน ไม่ต้องมีพาสปอร์ต เพราะสามีใหม่ของแม่ทำงานที่ ตม.ประเทศเกาหลี

แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายละ 8,000-20,000 บาท ขึ้นอยู่กับอายุและความสามารถ ตามคำกล่าวอ้างของมะปราง มีผู้เสียหายอย่างน้อย 170 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,7000,000 บาท

ช่วงเวลาที่ มะปราง มาหลอกลวงชาวบ้าน เป็นช่วงเวลาที่มาอาศัยอยู่กินฉันสามีภรรยากับ นายเกียรติศักดิ์  อายุ 23 ปี ที่หมู่ 7 ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ ได้ประมาณ 3 เดือน จนเรื่องมาแดงตอนที่มีผู้ที่ถูกหลอกตกเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิกว่า 60 คน ไม่สามารถบินออกไปประเทศเกาหลีได้ ก่อนมะปรางจะหลบหนีไป

นอกจากนี้ มะปราง ยังทิ้งความช้ำใจให้กับครอบครัวของแฟนหนุ่ม เพื่อต้องการสร้างภาพ ว่าเป็นคนมีฐานะ คือสั่งให้พ่อแม่แฟน รื้อบ้านหลังเก่าออก เพื่อจะสร้างบ้านทรงโมเดิร์นหลังใหม่ให้ เพราะแม่ที่อยู่ประเทศเกาหลี ส่งเงินมาให้แล้ว

ทำให้พ่อกับแม่แฟนหนุ่ม ไปเชื่อวัสดุก่อสร้างกับร้านจำหน่ายเป็นเงินกว่า 120,000 บาท ทั้งยังต้องติดหนี้ค่าแรงช่าง และค่าอาหารที่ไปเชื่อกับร้านค้ามาอีกรวมกว่า 250,000 บาท ก่อนชาวบ้านที่เสียหาย รวมตัวกันไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา

นางทอน อายุ 56 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ครอบครัวตนและญาติจำนวน 6 คน หลงเชื่อ กู้เงินมารวมแล้วกว่า 60,000 บาท หวังจะไปทำงานได้เงินเดือนสูงๆ มาเลี้ยงครอบครัว สุดท้ายกลายเป็นถูกหลอกตอนนี้ยังหวังจะได้เงินคืนเพราะคิดว่ามะปรางยังใช้เงินไม่หมด

ด้าน นางเกษร อายุ 45 ปี แม่ของนายเกียรติศักดิ์ แฟนหนุ่มมะปราง กล่าวว่า หลังทราบข่าวว่าตำรวจจับตัวมาส่งที่โรงพัก จึงเดินทางมาทันที เพราะอยากเห็นหน้าลูกสะใภ้ และอยากถามคำแรก “แม่กับพ่อ รักและทำดีให้กับมะปรางทุกอย่าง ทำไมถึงทำกันได้” ยอมรับตอนนั้นรักลูกสะใภ้มาก และยอมรับว่าตอนนี้เจ็บมาก

นางเกษร เล่าด้วยว่า ตอนนี้เบาใจลงบ้าง เรื่องวัสดุก่อสร้างที่ไปเชื่อทางร้านมา เพราะเจ้าของร้านให้คืนวัสดุที่ยังไม่ทันเอาไปใช้ได้ ส่วนวัสดุที่ใช้ไปแล้วตอนนี้คิดเป็นเงินประมาณ 45,000 บาทแต่ตอนนี้ตนยังไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว บ้านที่เคยมีก็ไม่มีแล้ว

สำหรับในด้านคดี เบื้องต้น ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ แสงคำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ เจ้าของคดี ได้แจ้ง 2 ข้อหา คือหลอกลวงผู้อื่นสามารถหางานหรือส่งไปฝึกงานที่ต่างประเทศได้ และข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป