ร้อนเกินปุยมุ้ย! คลื่นความร้อนโถมยุโรป อังกฤษทะลุ 40 องศา

ฤดูร้อนของอังกฤษปีนี้เข้าขั้นเลวร้าย อุณหภูมิสูงเกิน 40°C เป็นครั้งแรก หลังคลื่นความร้อนแผ่ขยายครอบคลุมทั่วทั้งทวีปยุโรป สำนักพยากรณ์อากาศของอังกฤษรายงานอุณหภูมิ 40.3°C เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา และถือเป็นวันที่อากาศร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ โดยอุณหภูมิสูงกว่าที่เคยบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 ก.ค.ปี 2019 ที่ 38.7°C

โดยปรกติ อุณหภูมิเฉลี่ยช่วงเดือน ก.ค. ของอังกฤษ ตอยกลางวันจะอยู่ที่ 21°C และช่วงกลางคืนอยู่ที่ราว 12°C 

มีรายงานว่า พื้นที่อย่างน้อย 34 แห่งทั่วประเทศที่อุณหภูมิพุ่งสูงทำลายสถิติ ขณะที่สกอตแลนด์ก็ร้อนทำลายสถิติวันที่ร้อนที่สุด โดยวัดอุณหภูมิได้ 34.8°C ส่วนที่เวลส์มีบันทึกสถิติความร้อนใหม่ที่ 37.1°C

อากาศที่ร้อนสุดขีด ส่งผลให้บ้านเรือนราว 15,000 หลังทางตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดการโอเวอร์ฮีทในช่วงที่อุณหภูมิสูงสุด ขบวนรถไฟต้องหยุดให้บริการเนื่องจากอากาศร้อนส่งผลต่อสายรับส่งสัญญาณ

JUSTIN TALLIS / AFPคนเดินถนนนำเท้าลงจุ่มน้ำเพื่อคลายความร้อนที่จัตุรัสทระแฟลเกอร์ ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2565

อากาศที่ร้อนและแห้งยังส่งผลให้เกิดไฟป่าขึ้นรอบกรุงลอนดอนและทั่วเกาะอังกฤษ ไฟป่าเผาทำลายบ้านเรือน ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ เช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วยุโรปใต้กำลังได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อน สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอิตาลี มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 °C เป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายวัน ขณะที่ในบางพื้นที่อุณหภูมิสูงเกือบ 45°C และเกิดไฟป่าลุกลามเป็นวงกว้าง

ที่สเปนและโปรตุเกส มีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 คน โดยมีสาเหตุเกี่ยวเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด ที่ฝรั่งเศสมีการอพยพประชาชนมากกว่า 16,000 คนเพื่อหนีไฟป่าที่เกิดขึ้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ส่วนทางตอนใต้ของสเปน ประชาชนมากกว่า 3,200 คน ต้องอพยพหนีไฟป่า มีรายงานด้วยว่าเกิดไฟป่าขึ้นที่โครเอเชียและกรีซอีกด้วย

นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศระบุว่า ปรากฏการณ์นี้มีสาเหตุมาจากมนุษย์ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณมหาศาล จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก และส่งผลให้เกิดสภาพอากาศรุนแรงแบบสุดขั้วถี่มากขึ้น เช่น คลื่นความร้อน ที่ยุโรปกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ 

JUSTIN TALLIS / AFPคนเดินบนถนนใกล้ตลาดบรอดเวย์ ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565

การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้เผยว่า จำนวนคลื่นความร้อนในยุโรปเพิ่มสูงขึ้น 3-4 เท่าในอัตราเร็วที่มากกว่าบริเวณเหนือเส้นละติจูดกลาง อย่างสหรัฐ และแคนาดา ก่อนหน้านี้มัการพยากรณ์ว่า อุณหภูมิของอังกฤษจะสูงถึง 40°C ในทศวรรษที่ 2050 แต่สิ่งนั้นได้เกิดขึ้นแล้วในทศวรรษที่ 2020 นี้

มีการออกคำเตือนว่าอุณหภูมิที่สูงนี้ จะเป็นความปรกติใหม่ของอังกฤษ รวมถึงการเกิดไฟป่า ความร้อนสุดขั้ว และการสูญเสียแหล่งน้ำ ซึ่งจะเป็นภัยพิบัติระยะยาวของยุโรป

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ขณะนี้โลกอุ่นขึ้นเฉลี่ย 1.1°C โดยเทียบกับช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม จึงส่งผลให้ฤดูร้อนเริ่มต้นด้วยอากาศที่ร้อนกว่าปรกติ

องค์การสหประชาชาติตั้งเป้าจะจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิโลกให้สูงกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมที่ไม่เกิน 1.5°C เพื่อช่วยเลี่ยงผลกระทบร้ายแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก