ฤๅษีดัง จัดพิธีกรรมแปลก “สวดอยู่สวดกิน” ให้ซดเบียร์-เหล้าขาว ยิ่งเมายิ่งรวย

โซเชียลตะลึง…ฤๅษีคัมภีร์ จัดพิธีกรรมแปลก “สวดอยู่สวดกิน” ให้ทุกคนกินเบียร์กินเหล้าขาว ยิ่งเมายิ่งรวย หนุนดวงเสริมโชคลาภวาสนา ที่ผ่านมามีลูกศิษย์และผู้เลื่อมใสเข้าพิธีจำนวนมาก

 

จากกรณีที่มีผู้โพสคลิปวีดีโอลงใน TIKTOK เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่กลุ่มคนกำลังทำพิธีกรรมบางอย่าง พร้อมลงข้อความว่า ใครอยากรวย ต้องมาทำพิธีบิณฑบาตดวง เปิดดวงเศรษฐี ให้มีโชคมีลาภ หนุนดวง โดยในพิธีต้องห้ามหยุดกินจนกว่าจะสวดเสร็จ กินเบียร์เท่ากับทอง เหล้าขาวเท่ากับเงิน กินให้เมายิ่งเมายิ่งรวย พร้อมกับติดแฮชแทค #พระอาจารย์คัมภีร์ #บอสพู่eps

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อาศรมพระมหามุนีครูธรรม 9 โกฏิ บ้านเชียงยืน หมู่ 5 ต.เชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นอาศรมของฤๅษีคัมภีร์ คัมภีรปัญโญ ฤาษีชื่อดังที่ปรากฏในคลิป บรรยากาศวันนี้ยังคงมีลูกศิษย์ลูกหาซึ่งเดินทางมาจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ รอเข้าพบฤๅษีษีคัมภีร์เพื่อดูดวง และทำพิธีเปิดดวงเศรษฐีกันอย่างคึกคัก โดยผู้เข้าร่วมทำพิธีดังกล่าวจะต้องจองคิวล่วงหน้า เพราะ แต่ละวันจะกำหนดรับไว้เพียงวันละ 50 คนเท่านั้น

ฤๅษีคัมภีร์ คัมภีรปัญโญ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พิธีกรรมที่ปรากฏในคลิปไม่ใช่พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นพิธีกรรมทางโลกที่มีชื่อว่า “สวดอยู่สวดกิน” ซึ่งได้ร่ำเรียนมาจากครูบาอาจารย์ไม่ใช่พระ ซึ่งขอให้เข้าใจว่าโลกเราก็เป็นแบบนี้ มีการอยู่การกิน มีครูเป็นครูยักษ์ ครูองค์พระพิราพ ครูสายฟ้าฟาด ครูชายขี้เมา ครูบิณฑบาตดวง คำว่าสุรา มาจากคำว่าอสูร มาจากสุระ เป็นอสุรา สุราจึงมาเกิดเป็นอสูร

พิธีนี้เป็นพิธีนอกศาสนา การจะทำบุญเปิดดวงเศรษฐี คือการเลี้ยงครู การเฉลิมฉลอง แต่พิธีกรรมเหล่านี้ไม่ได้บอกว่าทำแล้วต้องรวยเลย แต่เป็นเพียงกำลังใจในการคล้ายๆ คนขาดหลักในการดำรงชีวิต สิ่งที่ทำได้คือการให้กำลังใจมากกว่า ไม่ได้เป็นความขลัง มีคนบอกว่าทำแล้วปัง อันนี้ เค้าทำแล้วเค้าทำงาน หาทางขยับขยายธรุกิจเพิ่มเติม ไม่ใช่กินเหล้าเมายาแล้วรวย มีแต่คนขายแหละที่รวย แต่สิ่งนี้เป็นสิ่งทางโลก ไม่ใช่ผู้หวังนิพพาน ไม่ใช่ของศาสนาพุทธ เป็นไสยศาสตร์นอกศาสนา

ที่ผ่านมาเคยมีคนมาแล้วปัง ทำธุรกิจประสบความสำเร็จ หรือได้สิ่งที่หวัง เค้าก็กลับมาอีก วันนี้ก็มีคนเอาทองมาถวาย คนที่ประสบความสำเร็จถามว่าทุกคนมั้ย บอกเลยว่าไม่ ทำไมถึงเป็นที่รู้จัก เพราะมีคนมาแล้วได้ผลกันบ้าง ก็เลยมีการบอกต่อๆ กัน สิ่งที่ปังก็คือความขยัน จะพยายามบอกทุกคนว่าทำไปแล้วต้องขยัน แรงครูเป็นเพียงตัวช่วย ต้องขยันถึงจะปัง ถึงไม่มีพิธีกรรมนี้คนก็หากินเหล้ากันอยู่แล้ว มันเป็นของเลี้ยงโลก

ภาษีประเทศไทยอะไรแพงที่สุด คือภาษีเหล้าเบียร์ เป็นภาษีที่หล่อเลี้ยงโลก เอาเหล้าเบียร์มาเป็นตัวหนุนดวง แต่จริงๆ แล้วในพิธีไม่ได้มีแต่เหล้าเบียร์เพียงอย่างเดียว ต้องมีการแจกทานด้วย ปล่อยสัตว์ ซื้อที่ดินถวายวัด ถึงจะเกิดดวงเศรษฐี เป็นกุศโลบายแต่มันนอกศาสนา ซึ่งในพิธีเรียกว่า สวดอยู่สวดกิน เวลาสวดต้องกินไม่ขาดปาก กินนิดกินหน่อยก็ถือว่ากิน เคล็ดลับคือกินไม่ขาดปาก คนชอบกินก็อาจจะกินเยอะหน่อย เป็นพิธีฆราวาสเป็นพิธีทางโลก

อยากจะฝากนักข่าวไปอธิบายด้วย พระอาจารย์เรียนมาแบบนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เชื่อก็มา ไม่เชื่อก็ไม่มา ไม่ได้บังคับ โลกนี้มี 2 ส่วน มืดสว่าง ดำขาว คิดต่างได้ แต่เราไม่แตกต่าง คนที่ตำหนิควรมาดูว่า สิ่งที่ทำมันเกิดประโยชน์อะไรกับสังคมมั้ย มาดูว่าเกิดประโยชน์กับชาวบ้านมั้ย ปัจจัยที่เราได้มาเราเอาไปสงเคราะห์สังคมแบบไหน อาจารย์ชอบช่วยเหลือคนในมุมมืดแบบนี้ดีกว่า คนที่ชื่นชอบศรัทราก็มา คนไม่เชื่อก็ไม่มา เพราะตนเองไปบังคับคนที่ไม่เชื่อไม่ได้

พระพุทธเจ้าไม่สามารถทำได้ 4 อย่าง คือ 1.วิบากกรรม 2.รสชาติของพระธรรม 3.สติปัญญา และ 4. วาสนาไม่ตรงกัน ฝนตกทั่วฟ้าไม่มีประโยชน์กับหญ้าที่ไร้ราก คนที่ศรัทธาเค้ามาเอง คนที่เคยทำเค้าก็มา ตรงไหนดีเค้าก็มา สุดท้ายอยากจะฝากเป็นเรื่องของความเชื่อ ถ้าเชื่อค่อยทำ ถ้าไม่เชื่อก็ไม่ต้องทำ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์อยู่ในกระเป๋าพวกคุณ ทางเราไม่ได้ไปเรียกร้อง แต่ว่าถ้าทำแล้วมันจะปัง มันจะดีอยู่ที่ศรัทธา พิธีกรรมไม่ขลังเท่าพฤติกรรม ทำไปแล้วต้องเปลี่ยนพฤติกรรมในการอยู่การกิน ต้องทำมาหากิน เอาหลักธรรมมาใช้ยังไงก็รวยถ้ามีสติ