“วราวุธ” แจงส่ง “บัวน้อย” กลับแผ่นดินเกิด ขอไม่พูดปม 30 ล้าน

“วราวุธ”แจงส่งบัวน้อยกลับแผ่นดินเกิด มีการพูดคุยระหว่าง ทส.-เอกชน ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ดูหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่เงิน ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน ขอไม่พูดปม 30 ล.

 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงโครงการพากอริลลาบัวน้อย ที่อยู่ในกรงสวนสัตว์ในห้างสรรพสินค้าพาต้ากลับไปแผ่นดินเกิด ซึ่งมีกระแสข่าวเจ้าของตั้งราคาขายอยู่ที่ 30 ล้านบาท ว่า เบื้องต้นตนรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมอยู่ๆ เรื่องบัวน้อยจึงถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น เนื่องจากการพูดคุยระหว่าง ทส.กับทางเอกชนนั้น มีมานานแล้ว

ตั้งแต่ก่อนที่ตนจะมาเป็นรัฐมนตรีเสียอีก ซึ่งมีการพูดคุยประเด็นเรื่อง 30 ล้านบาท และยังมีการพูดคุยด้วยว่านอกจากประเด็นปัจจัยเรื่องเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่ทางภาคเอกชน ซึ่งเป็นเจ้าของบัวน้อยยังมีความกังวลเรื่องใดอีก

โดยฝ่ายที่อยากจะเห็นบัวน้อยกลับไปอยู่ในธรรมชาติครั้งหนึ่งในชีวิตนั้นเขาทราบดีว่าการที่อยู่ๆ จะเอากลับเข้าไปในธรรมชาติทันทีทันใดเลย คงไม่สามารถทำได้ เพราะบัวน้อยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปิดมานานเป็นเวลาเกือบชั่วชีวิตของเขา การที่จะเอาไปคืนธรรมชาติทันทีเลยนั้นทำไม่ได้ในทันทีแน่นอน เพราะต้องมีขั้นตอนการปรับตัว โดยเฉพาะเชื้อโรคในดินอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตบัวน้อยเอง

ดังนั้น ขอย้ำ ไม่ว่าการที่จะดำเนินการอะไรก็แล้วแต่ จะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดูเรื่องความเหมาะสม เพราะสิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุดคือสวัสดิภาพความปลอดภัยของบัวน้อยเอง ต้องรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและทุกฝ่าย

ไม่ใช่จะตัดสินใจเอง และขั้นตอนก็ยังอีกนาน ต้องใช้เวลา ไม่ใช่วันนี้เดี๋ยวนี้ ส่วนจะดำเนินการในลักษณะใดต้องอยู่ที่การพูดคุยของทาง ทส.และภาคเอกชน สำหรับปัจจัยเรื่องเงินขอย้ำว่าวันนี้จะยังไม่พูดถึงว่าแหล่งที่มาของเงินจะมาจากไหน เพราะยังไปไม่ถึงจุดนั้น และยังไม่รู้ว่าปัจจัยอื่นที่เป็นข้อกังวลยังมีหรือไม่อย่างไร

ส่วนทางพาต้าออกแถลงการณ์ระบุว่า ไม่ได้มีการเจรจาเรื่องเงิน 30 ล้านบาท นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่มีความเห็น เพราะการพูดคุยกันระหว่าง ทส.กับเอกชน มีมาตั้งแต่ก่อนที่ตนจะมาเป็น รมว.ทส.แล้ว และที่ผ่านมาได้รับทราบว่า มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นสิทธิของพาต้า เราไม่ว่ากัน

อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงสวนสัตว์ทั่วประเทศไม่ว่า จะเป็นของรัฐหรือเอกชนขอให้ดูแลสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของสัตว์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสวนสัตว์ให้ดี เพราะทุกชีวิตที่เราเอาเขามาอยู่ด้วยนั้น สุขภาพและความสุขของแต่ละชีวิตต้องเป็นสิ่งสำคัญ ควบคู่ไปกับความสุขของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมที่จะได้รับกลับไป คงไม่มีใครอยากเข้าสวนสัตว์แล้วเห็นสัตว์มีความเครียด ซึมเศร้า หงอยเหงา ซึ่งคงไม่มีความสุข อยากขอให้ดูแลสวัสดิภาพและสวัสดิการของสัตว์เหล่านั้นให้อยู่ในที่ที่เขาควรจะได้ ขอให้พยายามทำที่อยู่ที่พักให้ใกล้เคียงธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เพราะต้องการเห็นสัตว์ตามธรรมชาติ เพื่อให้ได้ความรู้ที่แท้จริงจากการที่เราได้ศึกษาเขาเหล่านั้น