สยอง ผัวหึงโหดใช้ท่อนแขนล็อกคอเมีย นอนกอดศพทั้งคืน บอกทีแรกไม่คิดว่าตาย

ผัวสารภาพใช้ท่อนแขนล็อกคอเมียดับในห้องพัก นอนกอดศพทั้งคืน เผยห่วงลูกชายวัยขวบเศษ ต้องมากำพร้าแม่และพ่อต้องมาติดคุก

วันนี้ (21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งเหตุสามีใช้ท่อนแขนตัวเองรัดคอเมียเสียชีวิต อยู่ภายในห้องพักคนงานก่อสร้างไม่มีเลขที่ ชุมชนทุ่งสว่าง ถ.อดุลยเดช ซอย 7 ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลอุดรธานี ขณะนี้ผู้ก่อเหตุได้ไปแจ้งนายจ้าง และนั่งรอมอบตัวอยู่บริเวณท้ายซอยอดุลยเดช 7

เจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัว นายเนรมิตร อายุ 46 ปี มายังบ้านที่เกิดเหตุที่ห่างกันประมาณ 200 เมตร พร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากูภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต

บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีห้องนอน 5 ห้อง โดยมีรั้วรอบขอบชิด ทีประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน ถูกล็อกด้วยกุญแจ เจ้าหน้าที่จึงใช้ค้อนทุบทำลายกุญแจเข้าไปตรวจสอบ เนื่องจากกุญแจอยู่กับคนงานที่ออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเช้า โดยไม่ทราบว่าเพื่อนร่วมงานฆ่าภรรยาตายในห้องพัก

เมื่อตำรวจเปิดประตูห้องพักพบศพ นางสาวอุลัยพร อายุ 34 ปี นอนหงายห่มผ้าอยู่บนที่นอน ตรวจสอบตามร่างกายพบบริเวณขอบตาซ้ายเขียวช้ำ เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง

โดย นายเนรมิต สามี ได้เข้าไปเปิดผ้าห่มหอมแก้มภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย และสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าภรรยา โดยใช้ท่อนแขนล็อกคอจากด้านหลังจนภรรยาขาดใจตาย หลังจากดื่มเหล้าและมีปากเสียงกันเรื่องหึงหวงช่วงหัวค่ำวานนี้

อาสากู้ภัยจึงนำศพไปชันสูตรถึงสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี ก่อนมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

จากการสอบสวน นายเนรมิตร ให้การรับสารภาพว่า ตนอยู่กินกับภรรยามาได้ 4 ปี มีลูกชายวัย 1 ขวบเศษ ให้พี่สาวดูแลอยู่ที่ จ.สกลนคร ส่วนตนและภรรยามาทำงานก่อสร้างอยู่กับนายจ้าง ประมาณ 1 เดือนกว่า โดยพักอาศัยอยู่รวมกันกับเพื่อนคนงาน

ก่อนเกิดเหตุช่วงค่ำได้นั่งดื่มเหล้ากันในห้องพัก และมีปากเสียงกัน เนื่องจากภรรยาปันใจให้ชายอื่น เพราะภรรยาเป็นคนหน้าตาดี และตนเคยไปตามที่บ้านชายอื่นกลับคืนมาแล้วหลายครั้ง เมื่อตนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ภรรยาก็จะดุด่าด้วยคำหยาบคาย

จึงโมโหจนหน้ามืด ประกบกับเมาเหล้า ใช้ท่อนแขนรัดคอภรรยาจนเสียชีวิต และนอนกอดศพภรรยาทั้งคืน ทีแรกไม่คิดว่าจะตาย กระทั่งเวลา 03.00 น. ตนตื่นขึ้นมาพบว่าภรรยาตัวเย็นผิดปกติและไม่หายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร

กระทั่งเช้าจึงเดินไปเล่าเรื่องราวให้นายจ้างฟังที่บ้านที่อยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร และขอชดใช้กรรมที่ตนเองก่อ เพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของภรรยาสุดที่รักคนนี้แล้ว

และขอโทษญาติพี่น้องของภรรยากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเป็นห่วงลูกชายวัยขวบเศษ ที่อยู่กับพี่สาวของภรรยา ต้องมากำพร้าแม่และพ่อต้องมาติดคุก

ด้าน นางบัวพัน อายุ 60 ปี นายจ้าง เปิดเผยว่า ขณะตนนั่งขายของชำอยู่ที่บ้าน นายเนรมิตรเดินมาบอกตนด้วยอาการเมาเหล้าและน้ำตาคลอว่า ได้พลั้งมือฆ่าภรรยาตายอยู่ภายในห้องพัก ทีแรกตนยังไม่เชื่อ จึงสอบถามรายระเอียดจนแน่ใจ ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปตรวจสอบที่ห้องพัก จึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง

สามีภรรยาคู่นี้มาทำงานก่อสร้างอยู่กับสามีตนได้ประมาณ 1 เดือนกว่า เมาแล้วชอบทะเลาะเรื่องหึงหวงกันเป็นประจำ โดยทั้งสองคนมีลูกชายวัยขวบเศษ ที่ให้พี่สาวผู้ตายเป็นคนดูแลอยู่ที่ต่างจังหวัด และผู้ก่อเหตุรักภรรยามาก ไม่คิดว่าจะถึงขั้นฆ่าภรรยาเสียชีวิต

ขณะที่ นายประทีป อายุ 49 ปี เพื่อนผู้ตาย เปิดเผยว่า ตั้งแต่รู้จักกันสามีภรรยาทะเลาะกันในวงเหล้าแทบทุกวันหลังเลิกงาน ในเรื่องที่สามีหึงหวงภรรยา โดยภรรยาก็ดุด่าสามีกลับ ตื่นเช้ามาก็กลับคืนดีกัน นายจ้างก็รู้เรื่องนี้ดี

กระทั่งครั้งนี้ตนไม่คิดเลยว่าจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งตนเป็นเพื่อนกับทั้งสองคน สามีเป็นคนนิสัยดีไม่ค่อยพูด ส่วนภรรยาชอบดุด่าสามี จนทะเลาะลงไม้ลงมือกันประจำ

ทั้งนี้ หลังจากตำรวจได้นำ นายเนรมิตร สามีหึงโหดรายนี้มาชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพเสร็จแล้ว ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น” ดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป