สาววัย 23 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไซเบอร์บูลลี่ เหตุเพราะย้อมผมสีชมพู เพื่อรับปริญญาโท
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา เจิ้ง หลิงหัว หญิงสาวชาวจีน ได้ตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองด้วยวัยเพียง 23 ปี หลังจากต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามา 6 เดือน ก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งสูญเสียคุณปู่ที่รักยิ่ง และได้รับผลกระทบไซเบอร์บูลลี่ เพียงเพราะเธอย้อมสีผมเป็นสีชมพูเพื่อเข้ารับปริญญาโท
โดยเพื่อนสนิทของเธอโพสต์ลงโซเชียลเน็ต “เพื่อนของฉัน เจิ้ง หลิงหัว จากพวกเราไปตลอดกาลในวันที่ 23 มกราคม 2566”
เจิ้ง หลิงหัว สูญเสียคุณแม่ไปขณะที่เธออายุเพียง 6 เดือน โดยเธอใช้ชีวิตมากับคุณพ่อและคุณปู่ แม้จะเจอกับปัญหาหรืออุปสรรคบ้าง แต่เธอก็มองโลกในแง่ดีและตั้งใจเรียน
เธอสอบเข้าเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา โดยมีคุณปู่เป็นหนึ่งในแรงผลักดัน และเธอใฝ่ฝันที่จะเป็นครูสอนดนตรี ชีวิตนักศึกษาของเจิ้ง หลิงหัวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ก่อนรับปริญญาโท เจิ้งตัดสินใจย้อมผมเป็นสีชมพูเพื่อให้ดูสวยขึ้นในรูปถ่ายรับปริญญา เธอโพสต์ภาพบนโซเชียล แต่ใครจะคิดว่าเพียงภาพถ่ายธรรมดา จะทำให้คลื่นความรุนแรงในโลกไซเบอร์พุ่งตรงมาที่เธอ
เจิ้ง ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอดเวลา ทั้งยังตั้งฉายาให้เธอว่า “สาวไนท์คลับ” เพียงเพราะเธอย้อมผมสีชมพู มีความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า “ทำไมบัณฑิตที่เพิ่งจบใหม่ถึงย้อมผมเหมือนสาวบาร์”
ยิ่งไปกว่านั้นภาพของเธอถูกนำไปใช้ในการขายหลักสูตรคอร์สเรียนออนไลน์ ขณะที่ภาพของเธอไปเยี่ยมคุณปู่ที่โรงพยาบาลก็ถูกนำไปสร้างเฟกนิวส์ อาทิ เป็นภาพของเด็กสาวที่แต่งงานกับชายชรา
ในขณะนั้น เจิ้ง หลิงหัว ตัดสินใจต่อสู้และปกป้องคนที่เธอรัก และขู่ว่าจะฟ้องคนใส่ร้าย เธอยังจ้างทนายเพื่อฟ้องร้องคนที่ทำให้ชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของเธอเสื่อมเสียอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เธอได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไซเบอร์บูลลี่ เจิ้งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าในเดือนกรกฎาคม 2565
แม้จะพยายามเข้ารับการรักษา แต่ PTSD (โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ) จากการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตนั้นร้ายแรงมาก ประกอบกับคุณปู่ของเธอได้เสียชีวิตลง จิตใจของเธอก็ยิ่งย่ำแย่
ในเดือนสิงหาคม 2565 เธอโพสต์หัวข้อ “ทำไมคนส่วนใหญ่ที่เคยถูกกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ตจึงเลือกที่จะจบชีวิตลง?” ทำให้ชาวเน็ตหลายคนออกมาขอโทษ
อย่างไรก็ตาม เด็กสาวยังคงไม่สามารถเอาชนะภาวะซึมเศร้า และตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองในที่สุด