สิบโทกระหน่ำยิงสิบตรี 19 นัด ดับหน้าค่ายทหาร เมียช็อกลูกเพิ่งคลอด ไม่ทันได้เห็นหน้าพ่อ

สิบโทกระหน่ำยิงสิบตรี 19 นัด ดับหน้าค่ายทหาร อ้างปมแค้น รุ่นน้องไม่เคารพรุ่นพี่ มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี

ที่ สภ.เมืองนครพนม ภายหลัง ทางด้าน พ.ต.อ.ณัฏฐวิชฌ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม พร้อมด้วย ทีมพนักงานสอบสวน คุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี ฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา คือ สิบโท มานิตย์ หรือ สห.วิทย์ อายุ 33 ปี ตำแหน่งสารวัตรทหาร หรือ สห. มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง นครพนม เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมหลังเข้ามอบตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา กรณีก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 ม.ม. กระหน่ำยิงเพื่อนรุ่นน้องค่ายเดียวกัน รวมถึง 19 นัด ผู้ตายคือ สิบตรี วัชระ หรือ สห.เกิ้ล อายุ 29 ปี ตำแหน่งสารวัตรทหาร มทบ.210 นครพนม  เสียชีวิตขณะเข้าเวรป้อมยามรักษาการ หน้าค่ายพระยอดเมืองขวาง

โดยวันนี้ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อสรุปรวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมส่งตัวไปดำเนินคดี ที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 24 อุดรธานี เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นข้าราชการทหาร กระทำผิดกับข้าราชการทหารด้วยกัน ส่วนหลักฐานที่ตรวจยึดได้ มีอาวุธปืนขนาด 9 มม. เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ และรถจักรยานยนต์ พร้อมหมวกกันน็อก ซึ่งตรงกับพยานหลักฐาน และกล้องวงจรปิดที่เห็นเหตุการณ์ 

ขณะเดียวกันระหว่างทีมตำรวจ มีการควบคุมตัว ผู้ต้องหา ออกมาจากห้องสอบสวน ได้มี นางสาวสกาวเดือน อายุ 32 ปี เมียผู้ตาย อุ้มลูกชายเพิ่งคลอดอายุไม่ถึงเดือน พร้อมด้วยญาติกว่า 10 คน มาขอดูหน้าผู้ต้องหา พร้อมด่าสาปแช่งให้ชดใช้กรรมกรณีฆ่าสามี นอกจากนี้ยังได้ขอทวงถามผู้ต้องหาถึงปมสาเหตุความขัดแย้งถึงขั้นลงมือยิงฆ่ากันตาย แต่ผู้ต้องหาปฏิเสธบอกถึงปมปัญหา เพียงแต่กล่าวคำขอโทษสั้นๆ แบบไม่เต็มใจ ทำให้ญาติไม่พอใจ พยายามรุมทำร้าย โดยมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ วางมาตรการป้องกันดูแลเข้มงวด ก่อนคุมตัวไปขังชั่วคราว รอส่งศาลทหารต่อไป ในวันพรุ่งนี้เช้า โดยไม่มีการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่สมัครใจ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา

ด้าน นางสาวสกาวเดือน  เปิดเผยว่า วันนี้ยอมอุ้มลูกชายเพิ่งคลอดไม่ถึงเดือน ยังมองไม่เห็นหน้าพ่อ มาดูหน้าคนก่อเหตุ อยากถามว่า สาเหตุอะไรที่ทำกับสามีถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งที่ทำงานด้วยกันสนิทกัน แต่ไม่ได้รับคำตอบชัดเจน บ่ายเบี่ยง และตอบสั้นๆ แบบไม่เต็มใจว่าขอโทษ โดยทางญาติทุกคนไม่ขออโหสิกรรมให้ ไม่ต้องการให้ไปขอขมาศพ และขอสาปแช่งให้ชดใช้กรรม เรียกร้องให้รับโทษประหารชีวิต

ส่วน นายสมพงษ์ บุญปัญจา ทนายอาสาฝ่ายผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเป็นทนายอาสามาทำหน้าที่ตามสิทธิ์ผู้ต้องหาร้องขอ จากการสอบถามผู้ต้องหา สารภาพว่าเป็นปมเหตุมาจากความไม่พอใจส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายเป็นรุ่นน้อง แต่ไม่เคารพรุ่นพี่ เป็นเรื่องศักดิ์ศรี จนเกิดความเคียดแค้น และเป็นอารมณ์ชั่ววูบ โดยทางผู้ต้องหายืนยันว่าไม่มีปัญหาอื่น เป็นแค่ความไม่พอใจส่วนตัว ส่วนการดำเนินคดียืนยันเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา