หดหู่ เจ้าสาวไปเสริมสวย ก่อนหายตัวปริศนา ตร.จี้จนเจ้าบ่าวสารภาพ ฆ่าเพราะกดดัน

คดีของเจ้าสาวอินเดียที่ถูกฆาตกรรมในวันแต่งงาน ได้สร้างความตกตะลึงให้กับสาธารณชน สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือผู้ร้ายคือ “เจ้าบ่าว” ของเธอเอง

ตามรายงานของ Hindustan Times เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ซึ่งตรงกับวันแต่งงานของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียชีวิตวัย 21 ปี และนายบี (นามสมมุติ) คู่หมั้นอาชีพช่างไฟฟ้าวัย 27 ปี

ตามข้อมูลของตำรวจลัคเนา ในเช้าวันเกิดเหตุ น.ส.เอ บอกว่าจะไปร้านเสริมสวยก่อนงานแต่งงานจะจัดขึ้นในเย็นวันนั้น อย่างไรก็ตาม หลายชั่วโมงต่อมาครอบครัวยังไม่เห็นเธอกลับบ้าน เมื่อโทรหาก็ไม่รับสาย ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มกังวล ลองตามไปที่ร้านเสริมสวยแต่ก็ไม่พบ ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหน สุดท้ายพวกเขาจึงยื่นรายงานคนหายที่สถานีตำรวจ

ตำรวจระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายอย่างรวดเร็ว ตรวจสอบกล้องในเส้นทางที่คาดว่า น.ส.เอ จะผ่าน และดูประวัติการสนทนาทางโทรศัพท์ของเธอ ซึ่งพบว่าคนสุดท้ายที่โทรหาเธอคือคู่หมั้นหนุ่ม ตำรวจจึงได้เรียกตัวนายบีมาสอบปากคำ เนื่องจากสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป น.ส.เอ ซึ่งในตอนแรกเขาโกหกว่าไม่รู้อะไรเลย เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่งงาน แต่ในที่สุดก็ยอมสารภาพความผิด

ปรากฏว่าในเช้าวันที่ 4 พฤษภาคม เขาได้โทรเรียกว่าที่เจ้าสาวออกมานัดคุยกัน เขาพาเธอไปปิกนิกในป่า และมีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น จากนั้นเขาจึงฉวยโอกาสที่ไม่มีคนอยู่บริเวณรอบๆ ใช้ผ้าคลุมไหล่รัดคอเธอจนเสียชีวิต หลังจากนั้นก็ปิดโทรศัพท์ของเธอและกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตำรวจตามไปที่จุดเกิดเหตุตามคำให้การของเขา และพบศพของ น.ส.เอ แล้ว

นายบียังสารภาพถึงสาเหตุที่ฆ่าคู่หมั้นในวันแต่งงาน โดยบอกว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับเธอมาตั้งแต่แรก เพราะยังไม่พร้อม แต่เธอก็ยังกดดันเขา สุดท้ายเขาจึงตอบตกลงเพราะเห็นแก่หญิงสาวเท่านั้น แต่เมื่องานแต่งงานใกล้เข้ามาเขาก็รู้สึกหดหู่ใจมากขึ้น และตัดสินใจลงมือฆ่าเธอในที่สุด

ผู้ถูกกล่าวหาวัย 27 ปี ถูกจับกุมและดำเนินคดีภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาอินเดีย (IPC) มาตรา 364 (การบังคับข่มขืนหรือการชักชวนเหยื่อ), 302 (ฆาตกรรม) และ 201 (ให้ข้อมูลเท็จ)