อดีตทหารเรือ เล่าความผูกพันเรือหลวงสุโขทัย เชื่อรอยปริด้านหน้าซ้ายต้นเหตุอับปาง

อดีตทหารเรือ เล่าความผูกพันเรือหลวงสุโขทัย ส่งกำลังใจถึงกำลังพลที่รอความช่วยเหลือกลางทะเล ขอให้ได้กลับบ้านโดยเร็ว เผยประจำเรือพบรอยปริผนังเรือด้านหน้าซ้าย เชื่อเป็นสาเหตุเรืออับปาง

จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุอัปปางกลางทะเล เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีกำลังพลสูญหายและเสียชีวิต ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกที่ชื่อว่า northladyz โพสต์คลิปพ่อของตัวเองพร้อมกับโมเดลเรือหลวงสุโขทัยที่ทำจากไม้ขีดไฟ พร้อมกับเล่าถึงความทรงจำและความผูกพันกับเรือหลวงลำนี้ ระบุว่า “เมื่อพ่อมีความหลังกับเรือลำนี้ เป็นทหารเรือชุดที่ได้รับมอบเรือหลวงสุโขทัยจากอเมริกาตั้งแต่ปี 2530”

ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านใน ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ พบกับ พันจ่าเอกอุดม ชัยชนะ อายุ 60 ปี อดีตกำนัน ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อดีตนักเรียนจ่าทหารเรือรุ่นที่ 22 และ เป็นหนึ่งในทหารเรือชุดแรกที่เดินทางไปรับมอบเรือหลวงสุโขทัยที่ประเทศสหรัฐอเมริกากลับประเทศไทย

พันจ่าเอกอุดม เล่าความหลังให้ฟังว่า ประมาณปี 2529 ขณะนั้นอายุ 25 ปี ได้มีโอกาสเดินทางร่วมกับกำลังพลทหารเรือรวม 88 นาย ไปรับเรือหลวงสุโขทัยจากท่าเรือซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ในตอนนั้นมียศจ่าเอก ทำหน้าที่สื่อสารทัศนสัญญาณบนเรือ โดยใช้เวลาหนึ่งเดือนจึงเดินทางมาถึงประเทศไทย การเดินทางไปรับเรือหลวงสุโขทัยถือเป็นความภาคภูมิใจในชีวิตทหารเรือ เพราะหลังจากเรียนจบนักเรียนจ่าสื่อสารก็เป็นเรือลำแรกที่ได้เดินทางไปรับ

หลังจากนั้นได้ประจำเรือหลวงสุโขทัยหลายช่วง ใช้ชีวิตอยู่บนเรือเป็นเวลากว่า 4 ปี จนทำให้เกิดความรักและความผูกพัน ช่วงที่อยู่ประจำเรือก็ได้สร้างงานประดิษฐ์ไว้ โดยถักเชือกขึ้นราวบันไดไว้ทุกจุดของเรือ นอกจากนี้ยังเป็นที่มาของเรือจำลอง โดยในช่วงที่ประจำเรือได้ใช้เวลาว่าง สร้างเรือจากก้านไม้ขีดไฟขึ้นมา ซึ่งในการต่อเรือไม้ขีดไฟก็สร้างขึ้นจากความจำ เพราะอยู่กับเรือมานานจนหลับตาก็รู้หมดทุกจุดทุกตารางนิ้ว

พันจ่าเอกอุดม บอกว่า เรือหลวงสุโขทัยถูกออกแบบมาให้ต่อสู้กับคลื่นลมในทะเลได้ดี เป็นเรือที่เรียกว่าเรือปิด โดยเรือทั้งลำมีประตู 6 บาน และจะถูกปิดทั้งหมดเมื่อเรือพ้นปากอ่าวและประกาศเตรียมเรือเข้ารบ นอกจากนี้เป็นเรือที่ไม่มีกระดูกงู ต่อกันเป็นบล็อกจนเข้ารูปเป็นลำเรือ แต่ละบล็อคจะมีประตูและผนังกันไว้ เมื่อเจอคลื่นลมแรงก็จะเอนไปมาแต่จะไม่จมเหมือนตุ๊กตาล้มลุก เหตุที่เกิดขึ้นจึงเกิดคำถามว่าน้ำเข้าเรือไปได้อย่างไร เพราะเรือจะเป็นมีบล็อคต่อกัน น้ำไหลจากหัวเรือเข้าท้ายเรือจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะแต่ละบล็อคจะกั้นน้ำไว้อยู่

อดีตทหารเรือท่านนี้ บอกด้วยว่า ล่าสุดเมื่อเช้าได้คุยในกลุ่มไลน์กับเพื่อนทหารเรือ ได้ข้อมูลว่าประจำเรือที่รอดชีวิตนายหนึ่ง เล่าให้ฟังว่าผนังเรือด้านหน้าฝั่งซ้าย มีรอยปริและมีน้ำซึมเข้าไป เวลาเรือโดนคลื่นหนักๆ เป็นไปได้ว่าน้ำอาจเข้าตรงจุดนี้ หรืออาจทำให้รอยปริแตกเพิ่มได้อีก เมื่อประกอบชุดข้อมูลที่บอกว่าน้ำเข้าเรือด้านหน้า ก็ทำให้เชื่อว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุให้น้ำเข้าเรือจนทำให้อัปปางได้ เพราะไม่มีทางที่น้ำจะเข้าเรือได้หากไม่มีรอยทะลุหรือรอยปริแตก เพราะเป็นเรือปิด

ส่วนเรื่องชูชีพ ประจำเรือทุกคนจะมีเสือชูชีพประจำตัว แต่บุคคลหรือกำลังพลจากส่วนอื่นที่มากับเรือ ไม่ทราบว่ามีให้หรือไม่ แต่ปกติเรือจะมีชูชีพสำรองที่แผนกพลาธิการดูแลอยู่

สำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้น พันจ่าเอกอุดม แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่กำลังพลต้องไปประสบเหตุที่เกินความคาดหมายและไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเรือขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการต่อสู้กับคลื่นลมได้ดีแบบนี้ ขอให้กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ช่วยดลบันดาลคุ้มครองกำลังพลที่ยังสูญหาย ให้รอดปลอดภัยกลับมาหาครอบครัวที่รออยู่ และขอส่งกำลังใจไปถึงญาติๆ ทุกคน ตราบใดที่เรายังไม่เจอ เรายังมีความหวัง