เตรียมหนาวอีก! กรมอุตุฯ เผย มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังแรง มาอีก 17-20 ธ.ค.

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเผย อุณหภูมิเริ่มลดลงแล้ว กรุงเทพฯ ปริมณฑล ต่ำสุด 18.9 มวลอากาศเย็นระลอกใหม่กำลังแรง มาอีก 17-20 ธ.ค. 65 ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนคลื่นลมแรง

วันนี้ (14 ธ.ค. 65) เวลา 09.30 น. ดร. ชมภารี  ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผย ณ ศูนย์ปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา โดยกล่าวว่า วันนี้อุณหภูมิของประเทศไทยโดยเฉพาะทางตอนบนของประเทศลดลงเนื่องมาจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 1- 2  วันนี้ (14-15 ธ.ค. 65) อุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง เริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ลดลง 4-6 °ซ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะลดลง 3-5 °ซ สำหรับภาคใต้ตอนล่างนั้นมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น อุณหภูมิต่ำสุดของวันนี้ที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ณ สถานีตรวจอากาศสุวรรณภูมิ วัดได้ 18.9 °ซ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อากาศเย็น ซึ่งประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะได้สัมผัสอากาศเย็นสบายในช่วงเช้าแบบนี้ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย 

อย่างไรก็ตาม จะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ที่มีกำลังแรงเข้ามาอีกในช่วงก่อนปีใหม่ (17-20 ธ.ค. 65) ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 6-8 °ซ (พื้นราบอุณหภูมิต่ำสุด 10-18 °ซ ยอดดอยและยอดภู มีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 °ซ) สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 °ซ คาดว่าอุณหภูมิต่ำสุด 15-21 °ซ

บริเวณภาคใต้ตอนล่าง เนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้นั้นมีกำลังแรงขึ้น ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธ.ค. 65

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำเพิ่มว่า ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามข่าวสาร และประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้ เพราะนอกจากจะได้เตรียมพร้อมรับกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงแล้ว ในภาคใต้ยังต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มด้วย โดยสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา www.tmd.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามที่สายด่วน หมายเลข 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง