เผยคำสั่งเสีย “หลวงปู่เวิน” พระเกจิดังเมืองเพชรบูรณ์ ละสังขารแล้ว สิริอายุ 94 ปี

ศิษยานุศิษย์แห่อาลัย “หลวงปู่เวิน กัลยาณธัมโม” พระเกจิชื่อดังเพชรบูรณ์ ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 75

จากกรณี พระครูเวฬุคณารักษ์ หรือ หลวงปู่เวิน กัลป์ยาณธัมโม เจ้าอาวาสวัดน้ำวิ่งวราราม ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ที่มรณภาพเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยท่านได้ละสังขารด้วยอาการอันสงบ สิริอายุได้ 94 ปี พรรษา 75 ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพุทธศาสนิกชนที่ได้สูญเสียพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบไปอีกท่านหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (23 ธ.ค.) คณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ ได้อัญเชิญร่างสังขารของหลวงปู่เวิน ไปพิธีขอขมา โดยมีพระภิกษุสงฆ์ ภิกษุณี พุทธศาสนิกชน ที่มาเข้าร่วมพิธีกว่า 500 คน

หลังจากนั้นเวลา 15.00 น. ได้อัญเชิญน้ำหลวงสรงศพ เสร็จแล้วบรรจุศพในโลงไม้ และจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น. ของทุกวัน

ทั้งนี้ คณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ หลวงปู่เวิน  ไว้ ณ พระทันตธาตุมงคลเจดีย์ศรีเพชรบูรณ์ วัดน้ำวิ่ง ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์

และจะได้มีการประชุมหารือเพื่อกำหนดพิธีประชุมเพลิงต่อไป เนื่องจากหลวงปู่ได้สั่งเสียไว้ก่อนที่จะมรณภาพว่า ไม่ให้เก็บร่างของท่านไว้ ให้เผาหลังจากเสร็จสิ้นพิธีบำเพ็ญกุศลศพแล้ว

ประวัติ หลวงปู่เวิน กัลยาณธัมโม เจ้าอาวาสวัดน้ำวิ่งวราราม พระเกจิดังแห่งเมืองเพชรบูรณ์

หลวงปู่เวิน กัลยาณธัมโม หรือ พระครูเวฬุคณารักษ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำวิ่งวราราม ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอหนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ มีนามเดิมว่า เวิน พลจันทร์ทึก เกิดเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2471 ที่บ้านหนองซำ หมู่ที่ 16 ต.ดงบัง อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนในหมู่บ้าน 

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2491 ณ พัทธสีมา วัดศรีโพธิ์ทอง ต.บ้านหัวดง อ.นาดูน จ.มหาสารคาม มีพระครูจันทรสีลคุณ เจ้าคณะอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการบุญ ปภัสสโร วัดนาสีนวล เป็นพระกรรม วาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า กัลยาณธัมโม หมายความว่า ผู้มีธรรมอันงดงาม

ตอนแรกตั้งใจอุปสมบทแค่ 1 พรรษา แต่พอได้อุปสมบทแล้วไม่คิดที่จะสึกอีกเลยเพราะท่านสนใจศึกษาหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จึงได้อยู่อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์ และศึกษาพระธรรมวินัย-พระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ

หลังจากนั้นได้ออกธุดงค์เพื่อฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ตามป่าช้า ป่าเขา และได้เดินธุดงค์ผ่านมาตามเทือกเขาเพชรบูรณ์ เดินทางมาถึง อ.หนองไผ่ ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ให้ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดหนองแจง

ต่อมาญาติโยมบ้านน้ำวิ่ง ต.บ้านโภชน์ ได้ไปนิมนต์หลวงปู่ให้มาอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำวิ่ง ซึ่งเป็นวัดสร้างขึ้นใหม่ แต่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น หลวงปู่จึงได้เดินทางมาจำพรรษาที่วัดน้ำวิ่งแต่นั้นมา พร้อมกับชักชวนพุทธบริษัท ร่วมกันก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุจนสำเร็จเรียบร้อย กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศเกียรติคุณยกย่องให้วัดน้ำวิ่งเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างอีกด้วย

หลวงปู่เวินเป็นผู้ที่มีรูปร่างเล็ก แต่แข็งแรง แทบจะไม่มีอาการเจ็บป่วยเลย กระทั่งล่วงเลยเข้าวัยชราหลวงปู่เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย เจ็บป่วย คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้นิมนต์ไปรักษาที่โรงพยาบาลต่างๆ แต่เนื่องจากท่านชราภาพมากแล้ว อาการจึงมีแต่ทรงกับทรุด

แต่ทั้งนี้หลวงปู่ท่านยังคงมีสติตั้งมั่น ตั้งจิตภาวนา ไม่ยึดติดกับอาการเจ็บป่วยของร่างกาย และขอมาพักรักษาตัวอยู่ภายในวัด กระทั่งเช้าตรู่ของวันที่ 22 ธ.ค.2565 ท่านก็ละสังขารด้วยอาการอันสงบ สิริอายุได้ 94 ปี พรรษา 75