เพื่อนบ้านเผยมุมน่ารัก “ซันนี่ ยูโฟร์” อัธยาศัยดี-ชอบซื้อของฝาก สลดใจเห็นสภาพห้อง

จากกรณีข่าวช็อกวงการ นายญาณวรุตม์ สุทธวาส  หรือ ซันนี่ ยูโฟร์ อายุ 50 ปี ศิลปินบอยแบนด์ยุค 90 และหมอดู LGBTQ+ คนดัง เสียชีวิตในคอนโด หลังป่วยเรื้อรังด้วยโรคไทรอยด์เป็นพิษมานานหลายเดือน มีสภาพร่างกายซูบผอมและเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่เจ้าตัวไม่อยากเป็นข่าว ด้านนิติอาคารจึงได้เข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือมาตลอด กระทั่งวานนี้อาการทรุดหนัก นิติบุคคลจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้ามาช่วยเกลี้ยกล่อมและทำการเจรจากับซันนี่ เตรียมนำส่งโรงพยาบาล แต่ยังไม่ทันที่รถกู้ชีพจะมาถึง เจ้าตัวเกิดช็อกหมดสติ ก่อนเสียชีวิตอย่างน่าเศร้า

  • เผยนาทีสุดท้ายของ “ซันนี่” ป่วยหนักอาการทรุด รถพยาบาลกำลังมารับ แต่ช็อกก่อน
  • ประวัติ “ซันนี่ ยูโฟร์” จากบอยแบนด์ดังพลุแตก เปิดตัวเป็น LGBTQ+ ฝ่ามรสุมชีวิต
  • ช็อกวงการ “ซันนี่ ยูโฟร์” เสียชีวิตแล้ว รายงานข่าวระบุยังไม่ทราบสาเหตุ

น.ส.เกศิณี อายุ 56 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองอาศัยอยู่ที่นี่มานาน 10 ปี โดยตนอาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ส่วนซันนี่อาศัยอยู่ที่ชั้น 4 ตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยเคยพบเจอและพูดคุยกัน ซันนี่เป็นคนอัธยาศัยดี แม้จะไม่ค่อยสนิทสนมเท่าไรนัก เพราะจะได้เจอก็เฉพาะช่วงค่ำภายหลังจากซันนี่เสร็จงาน ซันนี่ยังมักซื้อขนมมาฝากเพื่อนบ้าน และ รปภ. อยู่เสมอ

แต่เมื่อ 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ ทราบว่าซันนี่ป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่สามารถเดินได้ จะอาศัยการโทรสั่งให้ไรเดอร์นำอาหารมาส่งที่ห้อง โดยวานนี้ (18 กรกฎาคม) ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ข่าวว่าซันนี่ป่วยหนัก จนเจ้าหน้าที่ต้องมานำตัวจากห้องพักส่งที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นเนื้อตัวซันนี่เหม็นคละคลุ้ง แต่ยังมีสติ แต่ตนไม่ได้ติดตามลงมาดูเพราะเห็นว่าอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว จากนั้นไม่นาน ก็ทราบว่าซันนี่เสียชีวิตแล้วระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการ CPR ก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเพิ่งได้พูดคุยกัน ไม่คิดว่าจะด่วนจากไปเร็วขนาดนี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ซันนี่พักอาศัยอยู่ภายในห้องพักบนชั้น 4 เพียงลำพังโดยเลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน 2 ตัว และระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือพบว่า ห้องพักของซันนี่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยขนและมูลสุนัข ลักษณะคล้ายไม่ได้ทำความสะอาดห้องมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นำร่างของซันนี่ส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และประสานให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป