เลี้ยง ‘ควายงาม’ จำหน่ายน้ำเชื้อ รายได้เดือนเป็นล้าน(มีคลิป)

จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพของเกษตรชาว จ.กาฬสินธุ์ 18 อำเภอในช่วงฤดูแล้งพบว่า นอกจากจะทำการเกษตร ปลูกพืชอายุสั้นที่เหมาะสมกับสภาพดินฟ้าอากาศและปริมาณน้ำแล้ว ยังมีการเลี้ยง “ควายพื้นเมือง” และ “ควายงาม” กันเป็นจำนวนมาก

อย่างที่เรียกว่าฟื้นฟูตลาดควายที่ซบเซามานานให้เกิดความคึกคักอีกครั้งมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้เกิดธุรกิจหน่ายน้ำเชื้อควายงามหรือควายพันธุ์ดี หลายสายพันธุ์ เพื่อสนองความต้องการของเกษตรกรเป็นจำนวนมากเช่นกัน

นายมงคล มองเพ็ชร นายกเทศมนตรีตำบลคำบง เจ้าของ “เบิ้มพันล้าน” อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าเดิม ครอบครัวตนเลี้ยงควายฝูงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เกิดมาก็เห็นพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เลี้ยงควายเพื่อใช้แรงงาน และจำหน่ายเป็นทุนการศึกษาให้ลูก 

การเลี้ยงควายก็คืออีกทางเลือกหนึ่ง เพื่อใช้แรงงาน และได้ปุ๋ยคอก สำหรับตนปัจจุบันมีควายที่เลี้ยง 20 ตัว เน้นควายงาม ซึ่งจะมีมูลค่าสูงกว่าควายพื้นเมืองทั่วไป

โดยมี “เบิ้มพันล้าน” ควายพันธุ์ไทยแท้  เป็นพระเอกในฟาร์ม ซื้อมาเมื่อ 6 ปีที่แล้วราคา 5 แสนบาท ขณะที่ราคาควายงามโดยทั่วไปราคาตัวละ 40,000-50,000 บาท ทั้งนี้ ตนได้เลี้ยงเบิ้มพันล้าน เพื่อผลิตน้ำเชื้อจำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้สนใจ และเพื่อกระจายพันธุกรรมควายไทย ให้มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง

“อย่างไรก็ตาม หลังจากในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดให้มีการประกวดควายงามขึ้น 2-3 ครั้งที่ผ่านมา สามารถทำให้วงการตลาดควายไทยฟื้นตัวมากขึ้น ส่งผลให้ช่วงนี้มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำเชื้อเบิ้มพันล้านเดือนละ 1 ล้านบาท

ขณะที่มูลค่าในตัวเบิ้มพันล้าน ประเมินไว้ในราคา 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำหรับวงการเลี้ยงควายงามหรือควายพื้นเมืองในจ.กาฬสินธุ์ ปัจจุบันได้จัดตั้งกลุ่มคนเลี้ยงควายลุ่มน้ำปาว จ.กาฬสินธุ์ มีสมาชิก 350 ราย ประชากรควายประมาณ 10,000 ตัว” นายมงคลกล่าว

ด้านนายพร้อมพงศ์ พิมเภา อายุ 36 ปี บ้านแสนสุข เขตเทศบาลตำบลกุดสิม อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีทำนา ปลูกพืชสวน พืชไร่

โดยได้หันมาเลี้ยงควาย ทั้งนี้ ไม่ได้เลี้ยงตามกระแส แต่เลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์และเพื่อใช้แรงงาน นอกจากนี้ยังได้ปุ๋ยคอกบำรุงข้าวและแปลงเกษตร ซึ่งเป็นการฟื้นฟูวิถีชาวนาไทยอีสานอีกด้วย

จึงไปติดต่อขอซื้อควายเพศเมียจากโรงฆ่าสัตว์มา 1 ตัวราคา  2 หมื่นบาท โดยตนตั้งชื่อให้ว่า “บุญรอด” ใช้เวลาขุน 2 ปีครึ่ง ก็ได้อายุผสมพันธุ์ โดยไปติดต่อน้ำเชื้อเบิ้มพันล้านมาผสมเทียม

นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ช่วงที่บุญรอดตั้งครรภ์ รูปร่างผิวพรรณมันเปล่งปลั่งสวยงามมาก ถึงขนาดมีนายฮ้อยมาติดต่อขอซื้อทั้งแม่และลูกในท้องในราคา 2 แสนบาท ตนก็ไม่ขาย

และหลังจากบุญรอดตกลูกออกมา เป็นเพศผู้ชื่อ “เพชรภูไท” รูปพรรณสวยงาม เหมือนพ่อ “เบิ้มพันล้าน” มาก ซึ่งขณะนี้มีอายุ 2 เดือน มีนายฮ้อยมาให้ราคาทั้งแม่ลูก 5 แสนแล้ว ตนก็ไม่ขาย เพราะตั้งใจจะเลี้ยงไว้ใช้แรงงาน เอาปุ๋ยคอกบำรุงข้าวและพืช นอกจากนี้ยังตั้งใจที่จะเลี้ยงเพชรภูไท เป็นพ่อพันธุ์อีกด้วย