เห็นบิลเดือนเมษาฯ น้ำตาจะไหล การไฟฟ้านครหลวง เฉลยสาเหตุ ยันไม่ได้ขึ้นค่าไฟ

เห็นบิลเดือนเมษาฯ น้ำตาจะไหล การไฟฟ้านครหลวง เฉลยสาเหตุ ค่าไฟพุ่งตามอุณหภูมิที่สูงขึ้น ยันไม่ได้ขึ้นค่าไฟ

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (MEA) เปิดเผยถึงสาเหตุที่ค่าไฟสูงขึ้น จนแตกต่างกับรอบบิลมีนาคม 2566 อย่างเห็นได้ชัด ระบุว่า

หลาย ๆ บ้านมีหน่วยการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศที่ร้อนจัด ในบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ทำความเย็นต้องทำงานมากขึ้นและใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน คือเครื่องปรับอากาศ หรือ แอร์

พร้อมยกตัวอย่าง การทำงานหนักของเครื่องปรับอากาศ เพื่อให้ทุกบ้านเห็นภาพชัดขึ้น

เมื่ออุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส หากเราปรับอุณหภูมิแอร์ในห้องที่ 26 องศาเซลเซียส แอร์จะต้องทำงานเพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ 4 องศาเซลเซียส

แต่ในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด อุณหภูมิภายนอกอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส หากเราตั้งอุณหภูมิแอร์ในห้องเท่าเดิมไว้ที่ 26 องศาเซลเซียส แอร์จะต้องทำงานเพื่อลดอุณหภูมิให้ได้ถึง 14 องศาเซลเซียล

อีกทั้ง การเปิดปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ทำอาหารด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงการใช้น้ำอุปโภคบริโภคมากขึ้นทำให้ปั๊มน้ำทำงานมากขึ้น ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้ ค่าไฟขึ้นทั้งสิ้น

รองผู้ว่า MEA ยืนยันทิ้งท้ายไว้ว่า การไฟฟ้านครหลวง ไม่ได้ขึ้นค่าไฟ แต่ที่ค่าไฟขึ้น เป็นเพราะหน่วยการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นจากอากาศที่ร้อนขึ้น

และในส่วนของอัตราค่าไฟฟ้าประเทศไทยเป็นแบบก้าวหน้า คือ

150 หน่วย (กิโลวัตต์ชั่วโมง) แรก ( หน่วยที่ 1 – 150 ) หน่วยละ 3.2484 บาท

250 หน่วยต่อไป ( หน่วยที่ 151 – 400 ) หน่วยละ 4.2218 บาท

เกินกว่า 400 หน่วย ( หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป ) หน่วยละ 4.4217 บาท

และล่าสุดจากการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 ส่วนของ ค่า Ft ประจำเดือน พ.ค. – ส.ค. 66 มีค่าลดลงเท่ากับ 91.19 สตางค์ต่อหน่วย

การคิดค่าไฟฟ้า ยังใช้หลักตามนโยบายของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กำหนด สามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.mea.or.th/profile/109/111