แม่ค้าเกือบทัวร์ลง คุณตาซื้อมาม่า 1 ห่อ ไม่ขายให้ เรื่องจริงในคลิปหักมุมสุดซึ้ง

คลิปไวรัลแม่ค้าเกือบทัวร์ลง คุณตาขอซื้อมาม่า 1 ห่อ ไม่ขายให้ ตอนจบหักมุมซึ้งน้ำตาไหล 

ผู้ใช้แอปพลิเคชั่น Tiktok รายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวีดีโอ เป็นภาพที่มีคุณตาเดินเข้ามาในร้าน เพื่อขอซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ห่อ ในราคา 6 บาท แต่แม่ค้าไม่ยอมขายให้ แต่คลิปนี้กลับหักมุม กลายเป็นว่า แม่ค้าเอาบะหมี่ฯ ให้คุณตาไป 1 แพ็ก แบบฟรีๆ ไม่คิดเงิน ซึ่งหลังจากคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมถึงความมีน้ำใจของแม่ค้าคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังที่ ร้านสมพิศไก่สด ตั้งอยู่ทางเข้าวัดในเรืองศรี ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเปิดเป็นร้านจำหน่าย เนื้อไก่สด เนื้อหมูสด ลูกชิ้น ไส้กรอก สินค้าแช่แข็ง ซอสปรุงรส วัตถุดิบต่างๆ ขายในราคาปลีกและส่ง พบกับ นางสาวกฤษฎาพร ธรรมม่วงไทย หรือ แน้ม ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ และเป็นเจ้าของร้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนชอบช่วยเหลือคนที่ลำบากอยู่แล้ว และจะทำทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ไม่เลือกสถานที่ 

สำหรับคลิปที่โพสต์ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ค.65 ที่ผ่านมา ช่วงประมาณบ่ายๆ ซึ่งวันนั้น ตนสังเกตเห็นคุณตา ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าร้านไม่กล้าเดินเข้ามา ตนจึงได้ตะโกนถามว่าคุณตาจะซื้ออะไรคะ แล้วคุณตาก็ค่อยๆ เดินเข้ามาในร้าน ลักษณะไม่ค่อยแข็งแรง เดินไม่ค่อยไหว ตนจึงบอกให้คุณตาเดินเข้ามาใกล้ๆ ที่ตนนั่ง ในจังหวะเดียวกัน ตนก็บอกให้ลูกน้องเดินไปหยิบมาม่า มาให้คุณตา จำนวน 1 แพ็ก เพราะตนเองก็ลุกเดิน ไม่ค่อยถนัด เพราะว่าเพิ่งประสบอุบัติเหตุถูกรถชน  

จากนั้นคุณตา ก็พูดขึ้นว่า ตาขอซื้อมาม่า 1 ห่อ ที่ห่อสีแดงๆ ราคา 6 บาท ซึ่งตนไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร แต่ซื้อแค่ห่อเดียว ซึ่งตนมองว่าคุณตาตัวค่อนข้างใหญ่และสูง แต่ผอม ตนกลัวว่าตาจะไม่อิ่ม ตนจึงให้ลูกน้องเดินไปหยิบมาม่า 1 แพ็ก มาให้คุณตาโดยไม่คิดเงิน คุณตาก็ยื่นมือมารับมาม่าด้วยความดีใจ พร้อมกับให้พรว่า ขอให้เจริญๆ คำเหล่านี้ มันทำให้ใจฟูมากกว่าเงิน 6 บาท สำหรับเงิน 6 บาท ตนรู้ว่ามีค่าแต่คำพูดจากคุณตาทำให้ตนรู้สึกใจฟู มีกำลังใจในการทำความดีต่อไป  

สำหรับที่โพสต์ใน Tiktok ที่บอกว่าห่อเดียวไม่ขาย หรือ 1 ห่อ เราไม่ขายให้ ที่โพสต์แบบนั้นก็คือเน้นไม่ขายให้ แต่เน้นให้ฟรี คือน้ำใจเรามีให้มากกว่ามาม่า 1 ห่อ อยู่แล้ว และมีความสุขเมื่อเห็นผู้รับมีความสุขกับสิ่งที่ได้รับ ซึ่งตนถือคติในการทำความดีว่า “เราไม่สามารถเป็นดวงอาทิตย์ที่ฉายแสงให้คนทั้งโลกได้ แต่เราสามารถเป็นเทียนเล่มหนึ่งที่ส่องแสงสว่างให้คนที่กำลังมีชีวิตมืดมนอยู่ได้” ถึงมันจะเป็นสิ่งเล็กน้อย ไม่มากมายอะไร แต่มันก็อาจจะยิ่งใหญ่สำหรับคนที่ได้รับในขณะนั้น และตนมีความสุขและภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำ และจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เท่าที่มีโอกาสและทำได้ 

ล่าสุดในช่วงค่ำของวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้กลับไปที่ตลาดดังกล่าวอีกครั้ง และจากการสอบถาม นางสาวกรรณิกา ก้อนทองคำ อายุ 29 ปี แม่ค้าขายผัก ที่ตลาดสดดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนก็ไม่ทราบว่าลุงคนดังกล่าว เป็นใครมาจากไหน แต่ก็เห็นอยู่บ่อยมาก บางครั้งก็มาซื้อของกินของใช้ ตนก็ขายให้บ้าง บางครั้งก็ให้ฟรีบ้าง บางครั้งก็มาขอเงินทีละ 5-10 บาท ซึ่งพ่อค้า แม่ค้า ก็ไม่มีใครรังเกียจ ให้เงินให้ของกินไปบ้าง

ส่วนในกรณีที่เจ้าของร้านสมพิศไก่สด ได้ให้มาม่าแก่ลุงไป 1 แพ็ก นั้นตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน สำหรับเจ้าของร้านดังกล่าว ปกติก็เป็นคนใจบุญ และชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่แล้ว

ด้าน นายสมบูรณ์ ทิษาจารย์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านขายของชำที่อยู่ใกล้เคียง เปิดเผยว่า ตนก็ไม่รู้เช่นกันว่าลุงคนดังกล่าว เป็นคนที่ไหน แต่เห็นบ่อยครั้งมาขอเงิน มาขอของกินของพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ซึ่งแต่ละคนก็แบ่งปันให้ไป ส่วนที่เจ้าของร้านสมพิศไก่สด ให้มาม่าแก่ลุงคนนั้น ก็เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งตามปกติเจ้าของร้านก็เป็นคนใจดีอยู่แล้ว บางครั้งก็นำข้าวของ อาหาร มาแจก ตามเทศกาลต่างๆ และในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวได้พบกับลุงคนดังกล่าว กำลังเดินออกมาจากประตูวัด ที่อยู่ติดกับตลาด จึงได้เข้าไปพูดคุย โดยลุงมีลักษณะการตอบโต้ การพูดคุยที่ค่อนข้างช้า แต่ก็สามารถพูดคุยสื่อสารได้ โดยได้เปิดเผยว่า ตนเป็นคนอีกตำบลหนึ่ง มารับจ้างทำงานก่อสร้างกับเถ้าแก่ที่ตำบลสระประดู่ แต่ไม่ได้รับค่าแรง จึงมาเช่าบ้านอยู่ในซอยหลังตลาด เดือนละ 1,200 บาท ทุกวันนี้ก็เก็บผัก เก็บใบตองขาย ได้เงินก็เอามาซื้อของกิน บางวันหาเงินไม่ได้ก็ต้องขอเขากิน ส่วนที่มีเจ้าของร้านให้มาม่านั้น ตนดีใจเป็นอย่างมาก เพราะได้กินอิ่ม ขอให้เจ้าของร้านมีแต่ความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป