แม่เจ้าบ่าวถูกกระชากกระเป๋า ชิงสินสอด 3 แสน เจ็บหนักจนไม่ได้ไปงานแต่งลูกชาย

แม่เจ้าบ่าวกำลังจะไปแห่ขันหมาก ถูกกระชากกระเป๋าจนรถล้ม ชิงสินสอด 3 แสน ที่เก็บมาทั้งชีวิตเพื่อลูกชาย

(17 พ.ค.66) นางน้ำอ้อย  อายุ 47 ปี พนักงานโรงงาน ชาว ต.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พาผู้สื่อข่าวชี้จุดที่เกิดเหตุ ริมถนนอุทัย-วัดโตนดเตี้ย ม.4 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกคนร้ายกระชากกระเป๋าสะพาย ขณะกำลังซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่สามีเป็นคนขับ ภายในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 126,000 บาท ทองรูปพรรณ สร้อยข้อมือ หนัก 2 บาท สร้อยหนัก 2 บาท

นางน้ำอ้อย เล่าว่า เหตุคนร้ายชิงทรัพย์เกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 05.30 น.ตนเองได้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สามี เพื่อไปแต่งหน้าทำผมที่ร้านทำผมเตรียมที่จะไปแห่ขันหมากแต่งงานของลูกชาย ได้นำกระเป๋าที่มีเงินสดและทองรูปพรรณที่เป็นสินสอดติดตัวไปด้วยเพราะกลัวลืม

หลังจากแต่งหน้าทำผมเสร็จ ระหว่างเดินทางกลับใกล้จะถึงบ้าน มีคนร้ายเป็นชายขี่รถจักรยานยนต์สีดำเข้ามาประกบแล้วกระจากกระเป๋าที่สะพายเอาไว้จนรถจักรยานยนต์ล้ม ตนเองตกลงจากรถจนแขนข้างขวาหัก มีบาดแผลตามร่างกาย คนร้ายขับหลบหนีไป สามีขับติดตามไปแต่ไม่ทัน ตกใจและเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนั้นต้องรีบไปหาหมอเพราะปวดแขนมาก และต้องยืมเงินจากญาติไปซื้อทอง และนำสินสอดไปให้ทันฤกษ์ของขบวนขันหมาก ส่วนตนต้องไปหาหมอไม่ทันไปร่วมงานแต่งลูกชาย

นางน้ำอ้อย เผยอีกว่า ตนเองได้นำเงินที่ทำงานเก็บเอาไว้เพื่อเป็นสินสอดให้ลูกชายสร้างครอบครัว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้าย เพราะตนเองยังต้องมีหนี้สินที่ไปยืมเงินจากญาติมา ส่วนตัวคิดว่าคนร้ายคงจะมาตระเวนหาเหยื่อเพื่อดักรอชิงทรัพย์ พอเห็นตนสะพายกระเป๋ามาจึงลงมือก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี พบกับ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สุขโข รองผกก.สืบสวน สภ.อุทัย ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนตั้งแต่วันเกิดเหตุทันที มีการสอบสวนพยาน ที่เกี่ยวข้องทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ และตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามเส้นทางก่อนและหลังเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าพอสมควรอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพิ่ม