เกิดเหตุสลดที่ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี สุนัขพันธุ์พิตบูล 3 ตัว รุมกัดชายป่วยจิตเวชจนบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเจ้าของสุนัขพิตบูล ยินยอมชดใช้เยียวยาผู้เสียชีวิต ช่วยเหลืองานศพขอเป็นเจ้าภาพจัดงาน และเตรียมนำสุนัขทั้ง 3 ตัว ไปไว้ที่อื่น ด้านญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจดำเนินคดีต่อเจ้าของสุนัข
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านโนนจำปา ม.2 ต.ค้อใหญ่ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี สถานที่จัดงานศพนายพรชัย อายุ 47 ปี ชาวบ้านโนนจำปา ม.2 ต.ค้อใหญ่ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ที่ถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลรุมกัดจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าบ้าน วันที่ 14 ธันวาคม 2565 โดยมีนายกุศล อายุ 67 ปี พี่ชายคนตาย และญาติพี่น้องจัดเตรียมงานสวดอภิธรรมศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
ซึ่งมีนายธนบูลย์ ทุธินน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโนนจำปา มาช่วยจัดเตรียมงาน และนำผู้สื่อข่าวไปชี้จุดเกิดเหตุ รวมทั้งบ้านที่เลี้ยงสุนัขพิตบูลทั้ง 3 ตัวด้วย
นายกุศลฯ พี่ชายผู้ตาย เล่าว่า น้องชายป่วยเป็นจิตเวชต้องกินยารักษาเป็นประจำ แต่ยังทำงานได้อยู่ โดยทำงานอยู่โรงงานผลิตหมวกชุดลูกเสือ น้องชายไม่ครอบครัว อาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุคนเดียว เมื่อวานนี้ช่วงเย็นน้องชายออกไปซื้อกับข้าวในหมู่บ้าน ขณะกำลังเดินกลับบ้านมาถึงทางเข้าบ้านพอดี มีฝูงสุนัขพิตบูล 3 ตัว ได้รุมกัดสุนัขอยู่บริเวณนั้น ก่อนหันมารุมกัดน้องชาย
ซึ่งน้องชายได้คลานหนีตายเข้าไปในบริเวณบ้าน ก่อนไปหมดแรงอยู่หน้าห้องน้ำนอกตัวบ้าน เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันได้ออกมาช่วยเหลือ ไม่นานนายศักดิ์ศรี อายุ 56 ปี ชาวบ้านค้อใหญ่ ม.1 เจ้าของสุนัข ได้ขับรถยนต์กระบะตามมาช่วยเหลือ นำส่ง รพ.กู่แก้ว
“ ระหว่างทางน้องชายหมดลมไปแล้ว ไปถึงโรงพยาบาลก็ปั๊มหัวใจจนมีชีพจรกลับคืนมา ก่อนส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี แต่เนื่องจากน้องชายเสียเลือดมาก จึงทำให้เสียชีวิตในที่สุด น้องชายถูกสุนัขรุมกัดทั้งตัว ตามแขน ขา มีรอยกัดทั้งตัว มีแผลฉกรรจ์อยู่บริเวณอวัยวะเพศ รู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียน้องชายไป แต่ก็เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ติดใจเอาความเจ้าของสุนัข
เรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ หากเป็นไปได้ก็อยากให้เจ้าของสุนัขนำเอาไปไว้ที่อื่น เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุเศร้าขึ้นมาอีก ส่วนพิธีศพน้องชายจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ “
นางทองใบ อายุ 60 ปี พี่สาวภรรยาของนายศักดิ์ศรีฯ เจ้าของสุนัข เล่าว่า สุนัขทั้ง 3 ตัว เป็นพันธุ์พิตบูลสีน้ำตาล เพศผู้ทั้งหมด ตัวแรกชื่อเจ้าซีดาน อายุ 4 ปี เป็นพ่อของเจ้าขุนทอง อายุ 2 ปี และเจ้าน้อยอายุ 1 ปีกว่า ลูกชายของน้องสาวได้ซื้อเจ้าซีดานมาให้เลี้ยงตัวแรก
ตอนแรกก็กลัวเพราะรู้ว่าเป็นพันธุ์ดุร้าย น้องสาวน้องเขยไม่อยากเลี้ยงเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องเลี้ยงดูเรื่อยมา จนได้ตัวเมียมาเลี้ยงอีกตัว เมื่อได้เจ้าขุนทอง เจ้าน้อย ตัวเมียก็ตายไป เหลือเพียง 3 ตัว ทั้ง 3 ตัวไม่เคยมีประวัติกัดคนเลย มันจะกัดเพียงแค่สุนัขด้วยกันเอง เสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ต่อไปน้องเขยจะเอาไปไว้ที่อื่น เพราะความสบายใจของทุกฝ่าย ซึ่งครอบครัวก็พร้อมเข้าไปดูแลและเยียวยาครอบครัวผู้ตายอย่างถึงที่สุด
ด้านนายศักดิ์ศรีฯ เจ้าของสุนัขพิตบูล เล่าว่า ตอนเกิดเหตุตนไปร่วมงานศพญาติอยู่อีกหมู่บ้าน ต่อมาญาติได้โทรศัพท์ไปบอกว่า สุนัขที่บ้านหลุดออกจากบ้านไป แล้วไปกัดนายพรชัยฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนจึงรีบขับรถมาที่เกิดเหตุ และนำตัวนายพรชัยฯ ส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ก็ยื้อชีวิตเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ครอบครัวตนพร้อมรับผิดชอบดูแลงานศพจนเสร็จพิธีทุกอย่าง
สุนัขทั้ง 3 ตัว ลูกชายเป็นคนหามาให้เลี้ยง มีเจ้าซีดานเป็นพ่อพันธุ์ ที่ผ่านมาเคยเห็นมันกัดเฉพาะสุนัขด้วยกัน หรือไก่แถวบ้าน ไม่เคยเห็นกัดคนแบบนี้เลย คงจะโมโหที่ไปกัดสุนัขตัวอื่นก่อน แล้วเป็นจังหวะที่ผู้ตายเดินมาพอดี ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กัดคนถึงขนาดนี้ ต่อไปก็จะเอาไปไว้ที่อื่น ไม่เลี้ยงเอาไว้ที่บ้านอีกแล้ว จะหาคนมาเลี้ยงดูพวกมันต่อไป