โจรยกเค้าศูนย์อาหารห้างดัง กวาดเรียบตะเกียบยังไม่เหลือ ผู้เช่าเชื่อคนในรู้เห็น

เข่าแทบทรุด โจรแสบยกเค้าศูนย์อาหารห้างดัง กวาดเรียบไม่เหลือแม้กระทั่งตะเกียบ เสียหายกว่า 5 แสน ผู้เช่าน้ำตาตก ถูกซ้ำเติมหลังห้างปิดตัวกระทันหัน เชื่อคนในรู้เห็น ย้ำห้างฯ ต้องรับผิดชอบ!

วันที่ 19 กรกฏาคม 2565 นายฐิติพงศ์ นีนิรัตน์ และ นางสาวปิยาพัชร ศรีนวล สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจศูนย์อาหารและลานเบียร์ ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่ประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ จนต้องปิดกิจการกะทันหันไปเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เข้าตรวจสอบและขนย้ายทรัพย์สินต่างๆ ที่เหลืออยู่ในพื้นที่ในศูนย์อาหาร บนชั้นสองของอาคาร B หลังจากเมื่อวานนี้ (18 กรกฏาคม) เข้ามาเตรียมขนของไป แต่เมื่อไปถึงก็ตกใจเข้าแทบทรุด เมื่อพบว่าทรัพย์สินถูกขโมยหายไปเกือบทั้งหมด

นายฐิติพงศ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ได้ประมูลเช่าพื้นที่ศูนย์อาหาร เสียค่าเช่าเดือนละกว่า 3 แสนบาท สัญญา 3 ปี โดยลงทุนซื้อและเช่าอุปกรณ์หลายอย่าง ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ จานชาม พัดลม ตู้เย็น และ อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ อีกหลายรายการ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เปิดให้ผู้ค้ารายย่อยมาเช่าช่วงต่อ รวมทั้งหมด 18 ร้านค้า ต่อมาเกิดสถาการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด จนทำให้ต้องปิดพื้นที่หยุดให้บริการ ตามมาตรการควบคุมไปหลายครั้งในช่วงสองปีก่อน และสุดท้ายผู้ค้าไปต่อไปไหวพากันยุติกิจการ ทำให้ศูนย์การค้าต้องหยุดให้บริการไปโดยปริยาย มาประมาณสองเดือนแล้ว

กระทั่งล่าสุด ศูนย์การค้าประกาศปิดตัวลงอย่างกระทันหัน โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากห้างปิด ตนเองเตรียมแผนของย้ายทรัพย์สินออก แต่ทางห้างบอกว่ายังไม่ต้องขนของ บอกว่าสถานการณ์ดีขึ้นค่อยมาเปิดทำธุรกิจต่อ ช่วงที่ผ่านมาตนเองได้เข้ามาตรวจดูทรัพย์สินหลายครั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กรกฏาคม ทราบว่าร้านค้าอื่นๆ พากันมาขนของออก ตนเองจึงแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ทางห้างก็ยังไม่ให้ขนออก เมื่อสอบถามทราบว่า อนุญาตให้ขนย้ายข้าวของออกเฉพาะวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เวลา 09.00 – 11.00 น. ตนเองจึงตัดสินใจเตรียมขนย้ายของออก โดยได้เตรียมคนมาช่วยพร้อมอุปกรณ์รถเข็นต่างๆ

แต่ยังไม่ทันได้ขนของ ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ เข้ามาดูก็แทบช็อค เมื่อพบว่าทรัพย์สินหายไปจนเกือบหมดศูนย์อาหาร ทรัพย์สินที่หายไปมีทั้งจาน ชาม ช้อน ตะเกียบ ถ้วยน้ำจิ้ม ประมาณ 1,000 ชิ้น , แก้วเบียร์ 350 ใบ เหยือก 60 ใบ พัดลมติดผนัง พัดลมตั้งโต๊ะ 4 ตัว , โต๊ะเก้าอี้ 30 ตัว , สเตชั่นสแตนเลสสั่งทำ 18 ตัว รวมทั้ง ลำโพง 6 ชิ้น ป้ายไฟวิ่งขนาดเมตรครึ่ง ชุดควบคุมไฟบนเวที รวมทั้งโต๊ะสแตนเลสและเตาแก๊สแบบสองหัวที่อยู่ในบูทขายอาหาร หายไป 15 ร้าน เหลือให้ดูต่างหน้าเพียง 3 ร้าน รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 5 แสนบาท เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้คำตอบว่า ไม่รู้ไม่เห็น ทั้งที่ก่อนหน้านี้การจะนำข้างของออกจากพื้นที่แม้จะหนึ่งสองชิ้น ต้องถ่ายรูปและแจ้งรายละเอียดให้ทราบ

ทางด้าน นางสาวปิยาพัชร เชื่อว่าจะต้องทำกันหลายคนเป็นขบวนการ เพราะของหลายชิ้นมีขนาดใหญ่และหนัก ยกคนเดียวไม่ไหว ต้องมีการอำนวยความสะดวกในการขนย้าย และต้องมีอุปกรณ์ช่วยขนย้าย ที่สำคัญคือคนที่ก่อเหตุรู้จักห้องเก็บของ ที่คนนอกจะไม่รู้ และประกอบกับไฟฟ้าโดนตัดก็ยิ่งทำให้มืดมาก หากคนไม่เคยเห็นจะไม่มีทางทราบ เมื่อมาพบว่าข้าวของหายเกลี้ยงตนเองถึงกับน้ำตาตก รู้สึกเหมือนถูกปล้น โดยทรัพย์สินที่หายไปเป็นอุปกรณ์ทำมาหากิน และตั้งใจจะนำไปใช้ต่อยอดไปทำธุรกิจที่อื่นต่อ แต่วันนี้กลับหายเกลี้ยง

สำหรับทรัพย์สินที่หายไป ปรากฏว่าไปโผล่ในเพจขายสินค้ามือสองบางแห่ง ทำให้ทราบว่าถูกขโมยไปขายต่อ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่ปิง พร้อมแจ้งเบาะแสให้กับชุดสืบสวนตามจับกุมโจรกลุ่มนี้ และเรื่องที่เกิดขึ้นห้างต้องรับผิดชอบ เพราะทรัพย์สินอยู่ในพื้นที่ของห้าง ที่แม้จะปิดกิจการไปแล้วแต่ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลอยู่