โซเชียลเดือด ครูสุขศึกษา วางยาข่มขืนนักเรียนหญิง ม.1 เด็กเครียดเกือบฆ่าตัวตาย

ครูสุขศึกษา วางยาข่มขืนนักเรียนหญิง ม.1 เด็กเครียดเกือบฆ่าตัวตาย แต่ช่วยทัน เพื่อนกลัวเรื่องเงียบ ช่วยกัยปลุกกระแสในโซเชียล

(24 ต.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแชร์ข้อความในโลกโซเชียล ลักษณะข้อความว่า มีนักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ถูกครูชายสอนวิชาสุขศึกษาข่มขืน ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาไปแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายรณ์ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งผู้โพสต์ยังระบุอีกว่าเด็กที่ถูกครูข่มขืน เครียดจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่ครอบครัวช่วยได้ทัน และไม่ได้มีคนเดียวที่โดน แต่ยอมความเพราะครูคนนี้เส้นใหญ่ ซึ่งหลังจากมีการโพสต์มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ และมีการแชร์จำนวนมากจนเป็นกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล* *

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งเป็นชาว อ.นาคู แต่ไปเรียนที่โรงเรียนในตัว อ.กุฉินารายณ์ เบื้องต้นพบเพียงญาติ และเพื่อนบ้าน ส่วนเด็กหญิงและแม่ ยังไม่พร้อมที่จะเล่ารายละเอียด เนื่องจากยังเสียใจและยังเครียดหนักทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยจากการสอบถามญาติ ซึ่งเป็นตาของเด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวของตนอยู่ที่ อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับ อ.กุฉินารายณ์ ห่างกันเพียง 20 กม. ซึ่งหลานสาวเพิ่งไปเรียนต่อชั้น ม.1 ในโรงเรียนตัวอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ปกติหลานจะเช่าหอพัก ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะน้องเป็นนักกีฬาวิ่ง และเข้าชมรมกีฬาของโรงเรียน จึงจำเป็นต้องนอนพักที่หอ เพราะตอนเย็นต้องซ้อมกีฬา และไม่อยากเดินทางไกล ทั้งนี้มาทราบทีหลังว่าหอพักดังกล่าวห่างจากโรงเรียนประมาณ 2 กม.และเป็นของครูชายที่สอนสุขศึกษาในโรงเรียน และยังเป็นครูที่ดูแลชมรมวิ่งด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 17 ต.ค.65 ที่ผ่านมา มีเพื่อนของหลานสาว ได้เอาโทรศัพท์ของหลานโทรมาบอกกับที่บ้านว่า น้องถูกครูคนชายที่สอนสุขศึกษา และดูแลหอพักดังกล่าวข่มขืน ให้มารับน้องที่บ้านของเพื่อน ในระหว่างนั้นตนและแม่ของเด็กพยายามที่จะพูดคุยสอบถามหลานถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่สามารถคุยได้ เนื่องจากหลานเอาแต่ร้องไห้ ทีแรกไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง มีความเครียดมาก

กระทั่งต่อมาจึงยอมเล่าให้ฟังว่าถูกครูคนดังกล่าวได้เรียกให้ไปหาบอกว่าไปนวดให้หน่อย และน้องก็ไปนวดที่หอนอนแล้วสักพักครูได้เอาน้ำอะไรบางอย่างให้น้องดื่ม คาดว่าน่าจะเป็นยาสลบ หรือยานอนหลับ แล้วน้องก็หลับไป พอตื่นมาอีกทีน้องไม่มีเสื้อผ้าติดตัว และเจ็บตรงอวัยวะเพศ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังได้ทราบเรื่อง เพื่อความมั่นใจแม่และญาติจึงได้พาตัวหลานไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลวันวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565 ผ่านมา ซึ่งหลังจากตรวจร่างกายเสร็จ ทางแพทย์ก็ได้แจ้งว่าอวัยวะเพศและปากมดลูกมีร่องรอยฉีกขาด พร้อมให้ไปแจ้งความดำเนินคดี หลังจากได้ยินย่างนั้นแล้วทางแม่และญาติก็ได้ไปดำเนินการแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ และต้องการให้ดำเนินคดีถึงที่สุด จนถึงปัจจุบันคดีก็ยังไม่คืบหน้าอะไรเลย

ซึ่งหลังเกิดเหตุ ครูชายคนดังกล่าวพร้อมด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนได้พยายามมาพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่ทางแม่และญาติไม่พร้อมที่จะคุย และอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว โดยบอกว่า ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว และได้ทำหนังสือรายงานชี้แจงส่งให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยผ่านนายอำเภอกุฉินารายณ์ และได้รายงานให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาจ้างครูคนดังกล่าวแล้ว และจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนขั้นตอนทางคดีก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ