โผล่อีก! แก๊งจีนเทาอุ้มสาวร่วมชาติรีดเงิน ก่อนหลบหนีออกนอกประเทศ

รองผบช.น.รับแก๊งอุ้มรีดสาวจีนย่านห้วยขวาง 4.2แสน เผ่นหนีออกนอกประเทศตำรวจขอศาลออกหมายจับแล้ว -ส่วนคดีอุ้มบางโพงพางยังไล่ล่าอีก 1 ราย จ่อหมายจับคนไทยเอี่ยว1-2ราย

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกับทีมข่าวกรณีกลุ่มจีนเทาอุ้มรีดเรียกค่าไถ่สาวจีนเพื่อนร่วมชาติก่อนหลบหนีออกนอกประเทศตามที่มีกระแสข่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนต่อเนื่องวันที่ 18 เมษายน โดยพบว่าผู้เสียหายหญิงชาวจีน อายุ 28 ปี ได้ไปเที่ยวที่สถานบันเทิงย่าน RCA จากนั้นได้รู้จักกับเพื่อนชายชาวจีน 1 คน ก่อนจะดื่มกินภายในสถานบันเทิง กระทั่งเพื่อนชายได้ชักชวนผู้เสียหายไปที่คอนโดย่านพระราม 9 ซึ่งเป็นห้องเช่าต่อจากบุคคลอื่น

เมื่อไปถึงห้องพักปรากฏว่าพบเพื่อนชายชาวจีนอีก 1 คน ที่อยู่ภายในห้อง จากนั้นชายทั้งสองก็ช่วยกันพันธนาการผู้เสียหายด้วยเชือกพร้อมกับยึดโทรศัพท์ไอโฟน14 จำนวน 1เครื่อง เงินสดสกุลหยวน และทั้งทรัพย์สินอื่นๆ รวมเป็นเงินกว่า 427,500 บาท จากนั้นคนร้ายทั้งสองก็ได้ออกจากห้องไปยังสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศในช่วงเช้าของวันที่ 18 เมษายน 2566

 ส่วนความคืบหน้าแก๊งอุ้มรีดเงินที่ สน.บางพางโพง กว่า 1.8 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่าเบื้องต้นสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุในที่เกิดเหตุได้ 3 ราย ขอศาลออกอนุมัติออกหมายจับ 10 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 9 ราย รวมเป็น 12 ราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 1 ราย ได้หลบหนีออกนอกประเทศตำรวจอยู่ระหว่างการประสานและติดตามตัวมาดำเนินคดี ขณะเดียวกันตำรวจอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องที่เป็นคนไทยเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 1-2 รายด้วย

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่าขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับชายทั้ง2 รายแล้ว พร้อมประสานกับกองการต่างประเทศ เพื่อประสานตำรวจสากลในการขอออกหมายแดง ส่วนผู้เสียหายยังพบว่ามีรอยฟกช้ำตามลำตัว และถูกตบที่บริเวณใบหน้าด้วย ซึ่งจากการสอบสวนยืนยันว่าในส่วนของผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด แต่เพิ่งจะมารู้จักกันที่สถานบันเทิงโดยผู้เสียหายได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยเพียงลำพัง