CGTN:วิธีที่จีนจะขยายการเปิดประตูทางการเงินหลังการประชุมสําคัญ

กรุงเทพฯ , วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 — การประชุมทางการเงินสําคัญได้จัดขึ้นในปักกิ่ง ในวันจันทร์และอังคารเพื่อกําหนดแนวทางการพัฒนาทางการเงินของจีน

การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมทางการเงินสําคัญที่สุดในจีน และกําหนดแนวทางการพัฒนาและปฏิรูปทางการเงินของประเทศในระยะต่อไป

สิ่งที่เด่นชัดของการประชุมครั้งนี้คือการกล่าวถึงคําศัพท์ใหม่ ๆ เช่น การสร้าง “ชาติที่นําด้านการเงิน” และการสํารวจ “แนวทางการพัฒนาทางการเงินที่มีลักษณะของจีน” ส่งสัญญาณใหม่สําหรับงานด้านการเงินของจีนในอนาคตตามการวิเคราะห์

การเสนอความคิดเรื่องการสร้าง “ชาติที่นําด้านการเงิน” เปิดเผยว่าการเงินมีบทบาทและตําแหน่งที่สําคัญขึ้นในเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งหมด กล่าวคือ นายเหลียวเสี่ยวฉุน ศาสตราจารย์ประจํามหาวิทยาลัยเจ้อเทียนตง

การเปิดประเทศระดับสูงด้านการเงิน

การประชุมได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการเปิดประเทศระดับสูงด้านการเงิน

จําเป็นต้องขยายการเปิดประเทศด้านสถาบันอย่างรอบคอบ ปรับปรุงการสนับสนุนการลงทุนและการเงินข้ามพรมแดน เพื่อดึงดูดสถาบันการเงินต่างชาติและเงินทุนระยะยาวเพิ่มเติมเข้ามาพัฒนาธุรกิจในจีนตามที่การประชุมกล่าว

ในอนาคต จีนจะพยายามให้แน่ใจว่ากฎระเบียบทางการเงินของตนจะสอดคล้องกับกฎระเบียบทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ และการเปิดประเทศปัจจุบันจะโปร่งใสและคาดการณ์ได้มากขึ้น กวาน ถาโอ นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารจีนซีคิวริตี้กล่าวกับซีเอ็มจี

กวานระบุว่า จีนจะส่งเสริมตลาดการเงิน กฎหมาย และความเป็นสากลของตลาดการเงินของตนโดยใช้โซนการค้าเสรี โซนท่าเรือเสรี และบางศูนย์การเงินอย่างมีประสิทธิภาพ

การประชุมได้ยืนยันความจําเป็นในการพัฒนาความสามารถแข่งขันและอิทธิพลของเซี่ยงไฮ้ในฐานะศูนย์การเงินระหว่างประเทศ และสถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์การเงินระหว่างประเทศ

มาตรการต่างๆควรดําเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจจากต่างประเทศในขณะที่ขยายการเปิดประเทศตามที่กวานเสริม

ณ สิ้นเดือนกันยายน มีธนาคาร 202 แห่งจาก 52 ประเทศและภูมิภาคตั้งสํานักงานในจีน

ข้อมูลยังแสดงว่ามีสถาบันต่างประเทศ 1,110 แห่งได้รับอนุญาตเข้าถึงตลาดตราสารหนี้ของจีน โดยมียอดถือครองเกิน 3.3 ล้านล้านหยวนณ สิ้นเดือนกันยายน

การรักษาความมั่นคงทางการเงินของชาติ

ตามการเปิดประเทศ ความมั่นคงทางการเงินก็ได้รับการยกย่องในการประชุมด้วย

การประชุมได้ยืนยันความจําเป็นในการรักษาความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจของชาติ และการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินต้องเป็นเรื่องสําคัญตลอดไปของภาคการเงิน

ตั้งแต่ปี 2557 ถึงเดือนกันยายน 2566 ยอดเงินกู้เยวันที่ออกให้แก่เศรษฐกิจภาคจริงของจีนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 230 ล้านล้านเยวัน (ประมาณ 32.04 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) จาก 81.43 ล้านล้านเยวัน โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีร้อย