CGTN: จีนกระทําอย่างไรเพื่อสร้างชุมชนโลกแห่งอนาคตร่วมกัน

กรุงเทพฯ, 26 ก.ย. 2566 — ตั้งแต่ฟิจิไปจนถึงเลโซโทและรวันดา เทคโนโลยี Juncao ของจีนที่ใช้หญ้าแทนไม้ในการเพาะเห็ดที่กินได้ ช่วยแก้ปัญหาสําคัญๆ หนึ่ง นั่นคือการผลิตเห็ดกินได้จําเป็นต้องตัดไม้ทําลายป่า

เช่นเดียวกับที่ Juncao ได้ฉายาว่า “หญ้าแห่งความเจริญรุ่งเรือง” โดยเกษตรกรในเลโซโท จีนได้จัดการฝึกอบรมเทคโนโลยีนี้มาแล้ว 270 รุ่น ฝึกคนจาก 106 ประเทศ มากกว่า 10,000 คน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

นอกเหนือจาก Juncaoแล้ว โครงการข้าวลูกผสม เส้นทาง สะพาน บ่อน้ํา และโครงการอื่นๆ ภายใต้ความริเริ่มแถบเส้นทางสายไหมก็มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศสมาชิก ช่วยให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุขมากขึ้น

ความริเริ่มแถบเส้นทางสายไหมเป็น “ตัวอย่างชัดเจน” ของการสร้างชุมชนโลกแห่งอนาคตร่วมกัน และเป็น “สินค้าสาธารณะโลก” และแพลตฟอร์มความร่วมมือที่จีนมอบให้โลก ตามที่ระบุไว้ในหนังสือขาว “ชุมชนโลกแห่งอนาคตร่วมกัน: ข้อเสนอและการดําเนินการของจีน” ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร

ปีนี้ครบรอบ 10 ปีของวิสัยทัศน์นี้ นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอครั้งแรกในปี 2556

ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวว่า วิสัยทัศน์นี้ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนระหว่างประเทศอย่างกว้างขวาง

วิสัยทัศน์นี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในสันติภาพ ความยุติธรรม และความก้าวหน้าโดยประเทศและประชาชนจํานวนมากขึ้น รวมทั้งความปรารถนาร่วมกันในการสร้างโลกที่ดีขึ้น หวัง อี้ กล่าว

จีน ลงมือปฏิบัติ

นับตั้งแต่ความริเริ่มแถบเส้นทางสายไหมเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จีนได้ดําเนินความร่วมมือที่ “เปิดกว้าง เขียว สะอาด และมาตรฐานสูง” เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนและปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ตามรายงาน Belt and Road Economics ของธนาคารโลก คาดว่าเมื่อความริเริ่มแถบเส้นทางสายไหมได้รับการปฏิบัติอย่างเต็มที่แล้ว การค้าภายในประเทศสมาชิกจะเพิ่มขึ้น 4.1% ภายในปี 2573 ความริเริ่มนี้จะสร้างรายได้รวมทั่วโลก 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

“ความริเริ่มแถบเส้นทางสายไหมเป็นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่พันธมิตรทางภูมิรัฐศาสตร์หรือทหาร” ตามที่ระบุไว้ในหนังสือขาว “นี่เป็นกระบวนการเปิดกว้างและครอบคลุมที่ไม่ได้เป้าหมายหรือกีดกันฝ่ายใด”

ความริเริ่มนี้ ซึ่งภายในกรกฎาคม 2566 มีประเทศมากกว่าสามในสี่ของโลกและองค์การระหว่างประเทศมากกว่า 30 แห่งเข้าร่วม ไม่ใช่ “สโมสรจีน” หรือ “เส้นทางส่วนตัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง” ตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่เพิ่งเผยแพร่

ในฐานะประเทศกําลังพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดและเป็นสมาชิกของโลกใต้ จีนได้พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือประเทศกําลังพัฒนาอื่นๆ และช่วยเหลือประเทศผู้รับให้ขยายขีดความสามารถในการพัฒนา ผ่านความพยายามที่ได้รับการสนับสนุนจากความริเริ่มการพัฒนาโลก